Google Shopping Ads เป็นรูปแบบโฆษณาหนึ่งที่ทาง LnwShop ได้เปิดให้กับร้านค้าทุกร้านได้ลงโฆษณา โดยมันจะแสดงผลในรูปแบบของรูปภาพสินค้า ชื่อ และราคาสินค้า ลูกค้าเมื่อเห็นโฆษณาก็สามารถคลิ๊กเข้าไปแล้วก็จะไปอยู่ที่หน้าสินค้าที่ลูกค้าเห็นได้ทันที ซึ่งการโฆษณาแบบนี้ LnwShop ได้เปิดให้กับร้านค้ามาสักพักแล้ว และก็มีข้อมูลการทำงานที่กระจัดกระจาย วันนี้ ผมจะขอรวบรวมทุกสิ่งอยู่ในบล็อคนี้ที่เดียว และก็จะมีเรื่องใหม่ ๆ ที่อาจจะขาดตกบกพร่อง ผมจะเขียนเพิ่มไว้ในที่นี่เลยครับ
การจับมือระหว่าง LnwShop กับ Google นั้น ทำให้ LnwShop เป็นรายแรกที่เชื่อมต่อการลงโฆษณา Google Shopping Ads อย่างสมบูรณ์แบบผ่านทางหลังร้าน ทำให้การลงโฆษณานั้นเป็นไปอย่างง่ายดาย การปรับแก้ไขโฆษณา ร้านค้าก็สามารถทำได้เองผ่านทางหลังร้านแบบทันที ไม่ต้องมานั่งคุยกับพนักงาน แล้วให้พนักงานมานั่งปรับให้ในภายหลัง ร้านค้าจึงมีความสะดวกและทำทุกอย่างได้ตามใจที่ร้านค้าต้องการ
วิธีการทำงานของ Google Shopping Ads
การทำงานจะเป็นการทำงานแบบอัตโนมัติ โดยร้านค้ามีหน้าที่เลือกสินค้าที่จะลงโฆษณาอย่างเดียว หลังจากนั้น Google จะเป็นคนคิดให้เองว่า Keywords ที่จะใช้ในการลงโฆษณานั้นจะเป็นอะไร ช่องทางการลงโฆษณานั้นจะไปขึ้นที่ไหนบ้าง ทุกอย่างทำงานอัตโนมัติ โดยใช้หลักการ Smart Bidding ที่ Google แนะนำและ LnwShop เลือกมาใช้ในการลงโฆษณาให้กับร้านค้า เพื่อทำให้ร้านค้าได้ผลการลงโฆษณาที่ดีที่สุด
5 ช่องทางการแสดงผล Google Shopping Ads ที่คุณต้องรู้!
Smart vs Standard Bidding
สำหรับ Smart Bidding คือ ระบบการหากลุ่มเป้าหมายอัตโนมัติ ผ่านตัวอย่างของคนที่เข้าเว็บไซต์ของแต่ละร้าน ซึ่งในระบบของ LnwShop จะเก็บข้อมูลคนเข้าเว็บไซต์ประมาณ 100 คน เพื่อให้มีกลุ่มเป้าหมายของร้านค้าที่มากพอ และจะทำการส่งโฆษณาไปทุกช่องทาง
ในช่วงแรกที่เราเปิดให้ลงโฆษณา ร้านค้าที่มีคนเข้าเว็บไซต์ไม่ถึง 100 คน จะไม่สามารถลงโฆษณาได้ แต่ตอนนี้ เรามีตัว Standard เพื่อให้ร้านค้ากำหนดค่าคลิ๊กเอง แก้ปัญหาร้านค้าที่ยังไม่มีคนเข้าเว็บไซต์ เพื่อให้ลงโฆษณาได้ และเมื่อมีลูกค้าเข้าเว็บไซต์เกิน 100 คน ก็สามารถเปลี่ยนมาใช้ Smart Bidding เพื่อผลการลงโฆษณาที่ดีขึ้นได้
วิธีการสร้างโฆษณาง่าย ๆ ที่หลังร้าน
สำหรับการลงโฆษณานั้น ร้านค้าสามารถทำได้ง่ายที่หลังร้าน โดยการสร้างแคมเปญ และเลือกสินค้าที่จะทำการลงโฆษณา เติมเงินเข้าสู่หลังร้าน รอ Google เข้ามาตรวจสอบสินค้า หลังจากนั้นโฆษณาก็สามารถเริ่มทำงานได้เลยทันที ซึ่งระหว่างนั้น ร้านค้าสามารถเข้ามาแก้ไขได้เลยตลอด 24 ชั่วโมง โดยไม่ต้องรอเจ้าหน้าที่ LnwShop เข้ามาช่วยจัดการให้
แก้ไขโฆษณาอย่างไร หลังจากลงโฆษณาเสร็จแล้ว
หลังจากลงโฆษณาเรียบร้อย ร้านค้าสามารถเข้าไปดูผลของการลงโฆษณา รวมถึงการแก้ไขเพื่อทำให้ผลการลงโฆษณาดีขึ้น ในลิงก์ด้านล่างนั้นจะอธิบายถึงกระเป๋าเงินต่าง ๆ ว่ามีความแตกต่างกันอย่างไร การเติมเงินโฆษณา รวมถึงวิธีการปรับปรุงโฆษณา ผ่านทางหลังร้าน ที่แต่ละร้านสามารถทำได้เอง
จำนวนเงินที่จะลงโฆษณา ร้านค้าสามารถกำหนดได้เอง ขั้นต่ำอยู่ที่ 50 บาทต่อวัน ซึ่งสามารถเข้าไปแก้ไขได้ตลอดเวลา
สถิติต่าง ๆ มีอะไรให้ร้านค้าดูบ้าง
หลังจากผ่านช่วงเปิดตัว ทาง LnwShop ก็ได้มีการเพิ่มสถิติต่าง ๆ เข้ามาให้กับร้านค้าได้ดู ตั้งแต่สถิติในหน้ารวมแคมเปญ ที่เอาไว้เปรียบเทียบระหว่างแคมเปญ รวมถึงสถิติอย่างละเอียดที่สามารถกดเข้าไปดูได้เองรายสินค้า ปริมาณคลิ๊กเยอะสุดที่สินค้าไหน สินค้าไหนขายดี หลักการคำนวนของสถิติต่าง ๆ รวมถึงสถิติละเอียดอย่างอายุ เพศ ของคนที่มาซื้อสินค้า ทั้งหมดนี้สามารถกดเข้าไปดูรายละเอียดการทำงานได้ที่ลิงก์ด้านล่างนี้ได้เลย
สถานะการตรวจสินค้า
หลังจากลงโฆษณาเรียบร้อย ก็ต้องรอให้ Google เข้ามาตรวจสอบร้านค้ารวมถึงสินค้าแต่ละชิ้นอย่างละเอียด โดยทั่วไปแล้วจะใช้ระยะเวลาประมาณ 3 วันสำหรับร้านค้าใหม่ ซึ่งสถานะต่าง ๆ ร้านค้าสามารถเอาเมาส์ชี้ที่เครื่องหมายคำถาม และอ่านรายละเอียดแต่ละสถานะได้เลย
สำหรับสถานะสินค้านั้น มีด้วยกันหลายสถานะด้วยกัน คือ
- สินค้าทั้งหมด – เป็นสินค้าทั้งหมด รวมทุก Campaign ที่ร้านค้าเลือกมาลงโฆษณา
- สินค้าที่ใช้งานได้ – สินค้าที่ผ่านการตรวจสอบจาก Google แล้วว่าสามารถลงโฆษณาได้
- สินค้าที่มีข้อผิดพลาด – สินค้าที่ผ่านการตรวจสอบจาก Google แล้ว และไม่สามารถลงโฆษณาได้
- สินค้าที่มีข้อแนะนำ – สินค้าที่ได้รับการตรวจสอบจาก Google แล้ว สามารถลงโฆษณาได้ แต่มีข้อแนะนำให้แก้ไขเพิ่มเติม เพื่อประสิทธิภาพการลงโฆษณาที่ดียิ่งขึ้น
- สินค้าที่รอการตรวจสอบ – สินค้าที่ Google ยังไม่ได้เข้ามาตรวจสอบ
ปัญหา Duplicate Campaign การสร้างแคมเปญซ้ำ
เนื่องจากในระบบ LnwShop ไม่ยินยอมให้สร้างแคมเปญที่มีสินค้าที่ซ้ำกันเกิดขึ้น จึงได้มีการกันเรื่องนี้เอาไว้ไม่ให้ร้านค้าสามารถทำได้ แม้ว่าแคมเปญนั้นจะสิ้นสุดไปแล้วก็ตามวิธีการแก้ปัญหามีด้วยกัน 2 ประการ คือ
- แก้ไขสินค้าในแคมเปญเก่าให้เป็นสินค้ารายชิ้นก่อน แล้วก็ค่อยสร้างแคมเปญใหม่ที่ซ้ำกัน
- เปิดแคมเปญเก่านั้น ที่มีสินค้าอย่างที่เราต้องการ ให้กลับมาทำงานอีกครั้ง
สำหรับการ Duplicate Content นี้ จะคิดแยกกันระหว่าง Smart Shopping กับ Standard Shopping ยกตัวอย่างกรณีศึกษาของหลายร้าน คือ
- ร้านค้า A มีจำนวนคนเข้าร้านไม่ถึง 100 จึงสร้างแคมเปญแบบ Standard โดยการเลือกสินค้าทั้งร้านเพื่อลงโฆษณา
- ผ่านไป 5 วัน ร้านค้า A มีจำนวนคนเข้าเว็บไซต์เกิน 100 คนเรียบร้อยแล้ว จึงต้องการเปลี่ยนเป็น Smart Shopping
- ร้านค้า A สร้างแคมเปญแบบ Smart Shopping โดยการเลือกสินค้าทั้งร้าน เพื่อลงโฆษณา
- ร้านค้า A หยุดแคมเปญแบบ Standard
สำหรับกรณีนี้ ร้านค้า A จะไม่โดนเรื่อง Duplicate Content เนื่องจากอย่างที่ผมได้กล่าวไป เราจะไม่เอาแคมเปญทั้งสองแบบมาคิดรวมกัน ดังนั้น กรณีแบบร้านค้า A นั้น จึงสามารถลงโฆษณาได้
ทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่ผมได้รวบรวมมาไว้ให้ เป็นอัพเดทล่าสุดเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2562 ซึ่งหลังจากนี้จะมีอัพเดทอะไรเพิ่มเติม ก็อยากให้ร้านค้าติดตามบล็อคของทาง LnwShop ที่หลังร้าน ซึ่งเราจะมาอัพเดทเรื่อย ๆ แน่นอน
สำหรับลิงก์บทความต่าง ๆ ผมขออนุญาติแนบไว้อีกครั้งตามหัวข้อ ด้านล่างนี้เลย
- Google จับมือกับ LnwShop ให้ SMEs ลงโฆษณา Google Shopping แบบง่าย ๆ
- 5 ช่องทางการแสดงผล Google Shopping Ads ที่คุณต้องรู้!
- Smart Bidding เครื่องมือเด็ดที่ทำให้ Google Shopping ได้ Conversion Rate สูงปรี๊ด
- ลงโฆษณา Google Shopping Ads ผ่านระบบ LnwShop สะดวก ง่าย ไม่ต้องเสียเวลา!
- Google Shopping Ads หน้าจัดการใหม่ ใช้งานง่ายกว่าเดิม !
- สอนวิธีการอ่านสถิติ Google Shopping ที่หลังร้าน LnwShop
สำหรับร้านค้าที่ต้องการจะลงโฆษณา LnwShop สามารถจัดการได้ที่หลังร้านได้เลย หรือถ้าหาปุ่มสร้างโฆษณาไม่เจอ สามารถเข้าไปซื้อโฆษณาได้ผ่านทางลิงก์นี้ >>> https://www.lnwshop.com/store/google_ads
ซึ่งจะมีรายละเอียดการลงโฆษณา อัตราค่าบริการต่าง ๆ รวมถึงปุ่มสั่งซื้อโฆษณาผ่านทางลิงก์ดังกล่าวได้เลย ซึ่งจะมีรายละเอียดของการลง Google Text Ads ด้วย สำหรับร้านค้าบางร้าน ที่สินค้าไม่สามารถลงโฆษณา Google Shopping ได้
