ชวนมาดู 3 เครื่องมือช่วยสร้างยอดขายให้ธุรกิจ และเพิ่มโอกาสเข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้น ตามคำแนะนำจาก Google ข้อมูลจากงาน Think Commerce 2022 เมื่อปลายเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา จะมีอะไรบ้าง เราไปดูกันเลยค่ะ
3 เครื่องมือช่วยสร้างยอดขายให้ธุรกิจออนไลน์
1. YouTube
ปัจจุบันวิดีโอกลายเป็นคอนเทนต์ที่ได้รับความสนใจมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบวิดีโอยาวหรือสั้น นั่นทำให้ผู้คนจำนวนมากใช้เวลาไปกับการเสพสื่อดูวิดีโอบน YouTube มากขึ้นด้วย
โดยผู้คนส่วนมาก มักจะมีพฤติกรรมการดูและมีส่วนร่วมกับวิดีโอนั้น ๆ แต่อาจจะไม่ได้สั่งซื้อสินค้าทันที ซึ่งก็ไม่ได้หมายความว่าคอนเทนต์ของคุณจะไม่ดี หรือขายไม่ได้ เพราะเขาอาจจะเป็นคนประเภทที่ดูก่อน แล้วค่อยตัดสินใจซื้อทีหลังก็ได้
จากข้อมูลของ Google พบว่า 63% ของผู้ใช้งาน บอกว่า พวกเขาซื้อผลิตภัณฑ์เนื่องจากการดูวิดีโอบน YouTube
นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมร้านค้าออนไลน์ถึงไม่ควรมองข้ามการผลิตคอนเทนต์ในช่องทาง YouTube!
Tip! วิธีวัดผลการซื้อสินค้าบน YouTube แบบ Watch now, Buy later! คือให้ดูจากข้อมูล Engaged View Conversions (EVCs) ที่จะเก็บข้อมูลจากการดูวิดีโออย่างน้อย 10 วินาทีและการซื่้อสินค้าภายใน 3 วันหลังจากนั้น ของผู้ใช้งานที่เป็นรายเดียวกัน
2. Performance Max
แคมเปญโฆษณาที่เป็นสากลอย่างแท้จริงของ Google ที่ใช้ประโยชน์จาก Machine Learning ควบคู่ไปกับแพลตฟอร์มของ Google ทั้ง YouTube, Shopping Tab และ Search โดยมีส่วนประกอบที่สำคัญที่สุดคือ “ข้อมูลสินค้า” ที่จะนำไปสร้างโฆษณารูปแบบต่าง ๆ ส่งไปแสดงผลในทุก ๆ พื้นที่บนแพลตฟอร์มของ Google
Performance Max for onlines sales helps marketers save costs. – Google
ด้วยความสามารถของ Performance Max ทำให้นักการตลาดหรือเจ้าของร้านค้าออนไลน์อย่างเรา สามารถลดต้นทุนการทำโฆษณาลงไปได้มาก เพราะเพียงแค่สร้างแคมเปญโฆษณาแค่หนึ่งแคมเปญ ก็สามารถกระจายโฆษณาออกไปได้กว้างมากกว่าที่เคย และยังเพิ่มโอกาสขายสินค้าบนทุกพื้นที่ของ Google ได้อีกด้วยล่ะค่ะ
3. Across Online Sales Channels
แน่นอนว่าสมัยนี้ การขายช่องทางเดียวอาจไม่เพียงพออีกต่อไป “การทำงานร่วมกันของหลากหลายช่องทาง” จึงเป็นสิ่งที่ควรให้ความสำคัญมากขึ้น
เพราะแม้แต่ Google เอง ก็ได้เล็งเห็นความสำคัญในการเปลี่ยนแปลงนี้ จึงได้เปิดตัว Google Retail Partnerships Program เพื่อให้ธุรกิจสามารถเป็นพันธมิตรกับผู้ค้าปลีกและ Marketplace ได้ (ดูข้อมูลเพิ่มเติม retailpartnerships.withgoogle.com)
ฉะนั้นสำหรับร้านค้าออนไลน์อย่างเรา ก็ต้องหันกลับมาศึกษาช่องทางการขายอื่น ๆ ให้มากขึ้น และพยายามทำงานควบคู่กันไปในหลากหลายช่องทาง โดยไม่ทิ้งสิ่งใดสิ่งหนึ่ง เพราะทุกช่องทางอาจมีลูกค้ารอเราอยู่นั่นเอง
Tip! หากใครมีช่องทางการขายหลายช่องทาง กลัวจัดการไม่ไหวหรือกังวลเรื่องการตัดสต๊อก ก็สามารถใช้งานระบบเชื่อมต่อช่องทางขายจาก LnwShop เพื่อให้ระบบช่วยจัดการเชื่อมต่อข้อมูลสินค้า สต๊อก และออเดอร์อัตโนมัติได้นะคะ
และทั้งหมดนี้ ก็คือสิ่งที่เรานำมาฝากจากงาน Think Commerce 2022 นั่นเองค่ะ หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับผู้ที่ได้เข้ามาอ่าน และสามารถนำแต่ละเครื่องมือไปปรับประยุกต์ใช้กับธุรกิจของตัวเองกันได้ไม่มากก็น้อยนะคะ
ขอบคุณข้อมูลจาก Think Commerce 2022