เมื่อครั้งที่เราเรียนวิชาธุรกิจใดๆ เรามักจะพบกรณีศึกษาเกี่ยวกับ “วอล์มาร์ท (Walmart)” ห้างค้าปลีกอันดับหนึ่งของอเมริกาและของโลก แต่วันนี้ตำแหน่งที่หนึ่งของ “วอล์มาร์ท” กำลังจะโดนโค่นด้วยเว็บไซต์อี-คอมเมิร์ซของจีนอย่าง “อาลีบาบา (Alibaba.com)”
ก่อนหน้านี้เราเคยรายงานไปแล้วว่า รายได้ประจำปีของเว็บต่างๆ ในเครืออาลีบาบา ไม่ว่าจะเป็น alibaba.com, taobao.com, tmall.com รวมๆ กันแล้ว มากกว่ารายได้ของ ebay.com และ amazone.com ของฝรั่งแดนมะกันรวมกัน ล่าสุดรายได้ของเว็บต่างๆ ในเครืออาลีบาบา ก็กำลังจะแซงหน้ารายได้ของห้างค้าปลีกในโลกออฟไลน์อย่างวอล์มาร์ทด้วย! ด้วยการคาดการณ์รายได้ในปี 2016 ว่าจะถึง 15 ล้านล้านบาท
ปีที่ผ่านมาอาลีบาบาได้นำร่องเอาเว็บไฮไลท์ของตน 3 เว็บอย่าง taobao.com, tmall.com และ juhuasuan.com ไปเปิดในประเทศเพื่อนบ้านที่เน้นการใช้ภาษาจีนเป็นหลักอย่าง สิงคโปร์ ไต้หวัน ฮ่องกง และมาเก๊า รวมถึงเปิดเว็บ sea.taobao.com เพื่อรุกประเทศในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ด้วย! และแน่นอนว่าได้บุกไทยเงียบๆ ด้วยเว็บ thai.alibaba.com
ดูวิดีโออธิบายว่า Tmall เว็บอี-คอมเมิร์ซแบบ B2C ที่เป็นแหล่งรายได้จริงของเครืออาลีบาบาทำงานอย่างไร?
https://www.youtube.com/watch?v=jrrXciVLfZs#t=12
นอกจากนี้ทางอาลีบาบาได้พยายามขจัดปัญหาของเก๊ในเว็บเถาเป่า (taobao) ด้วยการลบร้านค้าที่ขายของเก๊ออกจากระบบ เช่น กระเป๋าหลุยส์ หรือ นาฬิกาโรเร็กซ์เก๊ รวมถึงหันมาลงทุนเพิ่มด้านการทำระบบจัดส่งสินค้า โดยล่าสุดได้อัดเงินกว่า 6,000 ล้านบาทในเว็บบริการส่งสินค้าทั่วโลกแบบเร่งด่วนภายใน 2 วัน อย่าง Shoprunner.com ด้วย
และเชื่อว่าภายในปีหน้าทางอาลีบาบาจะทำทุกธุรกิจในเครือบริษัทพากันเข้าตลาดหุ้นเขย่าวงการเทคโนโลยีโดยขึ้นแท่นเป็น 1 ใน 3 บริษัทเทคโนโลยีที่มีมูลค่ามากที่สุดในโลกอย่างแน่นอน!
อยากรู้จักอาลีบาบามากกว่านี้ คลิกอ่านบทความอื่นๆ ที่นี่
เจาะวิสัยทัศน์ “แจ็ค หม่า” ทำไมมองว่า Amazon จะไปไม่รอด!
รู้จัก 10 สุดยอดเว็บอี-คอมเมิร์ซ B2C ของจีน
รู้จัก ShopRunner ผู้ช่วยขนส่งสินค้าให้นักช้อปออนไลน์ในราคาบุฟเฟต์