ติดตามเทรนด์ค้าปลีกแห่งอนาคตไปกับ Google ผ่านบทวิเคราะห์แนวโน้มการขายและการทำการตลาดสำหรับผู้ค้าปลีกที่ร้านค้าออนไลน์ควรรู้! จะมีข้อมูลอะไรที่น่าสนใจบ้าง วันนี้เรารวบรวมมาให้คุณแล้วค่ะ
ส่องพฤติกรรมนักช็อปไทยในยุคที่ดิจิทัลกำลังมาแรง
ก่อนจะไปดูเทรนด์การตลาด เราก็ต้องมาสำรวจพฤติกรรมผู้บริโภค เพื่อให้เข้าใจถึงสิ่งที่ลูกค้าต้องการกันก่อน จากข้อมูลของ Google ได้พูดถึง 3 สิ่งที่ร้านค้าออนไลน์ควรรู้เกี่ยวกับผู้บริโภคไว้ดังนี้
1. ทีวี ไม่ได้เป็นเพียงสื่อเดียวที่กระตุ้นความสนใจของผู้ซื้ออีกต่อไป
ในยุคที่ทุกคนเข้าถึงเทคโนโลยีได้หลากหลายช่องทาง การโฆษณาโปรโมทสินค้าเพื่อกระตุ้นการซื้อผ่านทีวี อาจไม่ใช่แนวทางที่ครอบคลุมและเข้าถึงลูกค้าได้ในปัจจุบัน คุณจึงต้องผสานการทำการตลาดระหว่างออนไลน์และออฟไลน์เข้าด้วยกัน เพื่อเข้าถึงลูกค้าทุกกลุ่ม ต้องเข้าใจว่าเขานิยมใช้งานช่องทางไหนเป็นพิเศษ TV, YouTube หรือ Social Media อื่น ๆ และต้องไม่ลืมใช้ครีเอทีฟที่แตกต่างและเหมาะสมกับแต่ละกลุ่มลูกค้าด้วย
2. ช่องทางการหาข้อมูล ไม่ได้มีแค่ช่องทางเดียว
ลูกค้าในปัจจุบันมีทางเลือกในการใช้ช่องทางหาข้อมูลที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น Google Search, YouTube, Social Media หรือ Markeplace ต่าง ๆ ร้านค้าของคุณจึงควรเข้าไปอยู่ในพื้นที่ที่ลูกค้าจะเข้าถึงได้ด้วยเช่นกัน เพื่อเป็นหนึ่งในตัวเลือกและให้สินค้าของร้านถูกเลือกในที่สุด
3. การตัดสินใจซื้อของลูกค้า อาจเปลี่ยนไปเพียงเพราะการเห็นโฆษณา
ในบางครั้งที่ลูกค้าไม่ได้มีความต้องการซื้อ แต่ดันมีโอกาสได้เห็นโฆษณาของคุณผ่านตาในหลากหลายช่องทาง อาจส่งผลให้เกิดความต้องการซื้อได้ในที่สุด ดังนั้นร้านค้าออนไลน์จึงต้องพยายามนำสินค้าเข้าไปอยู่ในทุก ๆ Touchpoint ของลูกค้าเพื่อให้เกิดโอกาสในการซื้อขายให้ได้
4 เทรนด์ค้าปลีกแห่งอนาคตที่ร้านค้าออนไลน์ต้องรู้
คราวนี้เรามาดูกันเลยว่า จากพฤติกรรมของผู้บริโภคที่ผ่านมานั้น ทำให้แนวโน้มการขายในอนาคตเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร
Google ร่วมกับ Kantar และ Bain วิเคราะห์ทิศทางการเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมผู้บริโภคในยุคดิจิทัล และพบว่ามี 4 เทรนด์สำคัญที่อาจส่งผลต่อการทำการตลาดไปอีก 3-5 ปี
1. การซื้อสินค้าผ่านทุกสื่อที่เข้าถึงได้
อย่างที่บอกว่าลูกค้าสามารถเข้าถึงสื่อต่าง ๆ ได้อย่างหลากหลาย จากเดิมเคยเข้าไปช็อปปิ้งแค่ 1 ช่องทาง แต่ตอนนี้สามารถเข้าไปซื้อสินค้าที่ไหนก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นเว็บไซต์, โซเชียลมีเดีย, วิดีโอออนไลน์ หรือแม้แต่ในเกม ดังนั้น ร้านค้าจะต้องหาวิธีเจาะเข้าให้ถึงตัวลูกค้า เพื่อนำเสนอขายในตอนที่ลูกค้ามีความต้องการซื้อให้ได้
Tip! เพิ่มโอกาสเข้าถึงกลุ่มลูกค้าในทุกพื้นที่โฆษณา ด้วยแคมเปญ Performance Max ที่ขับเคลื่อนโดย AI ของ Google ที่พร้อมให้โฆษณาของคุณไปแสดงในทุกพื้นที่ที่ใช่ กับกลุ่มลูกค้าที่เหมาะสม ที่สามารถเพิ่มโอกาสในการขายให้คุณได้
2. Partnership Marketing กำลังมาแรง
ต้องยอมรับว่า เทรนด์การตลาดผ่านผู้แนะนำยังคงมาแรงอย่างมากในปีนี้ ยิ่งนักน็อปในยุคต่อไปมีแนวโน้มที่จะยึดติดกับแบรนด์น้อยลง และมองหาแบรนด์ที่ตอบโจทย์ความต้องการได้มากกว่า ร้านค้าออนไลน์จึงต้องใช้การตลาดแบบอื่นที่จะช่วยรักษาลูกค้าใหม่ ๆ ไว้ และการตลาดแบบ Partnership ก็เป็นหนึ่งในกลยุทธ์ที่ตอบโจทย์ในเรื่องนี้
3. Gen Z นักช็อปสายเปย์กลุ่มใหม่
30% ของประชากรโลกทั้งหมด ตอนนี้คือคน Gen Z ซึ่งคนกลุ่มนี้จะใช้เวลาในโลกออนไลน์และจับจ่ายมากกว่ากลุ่มอื่น ๆ – ข้อมูลจาก World Economic Forum
และเมื่อเทียบกับคนกลุ่มอื่น ๆ ชาว Gen Z และ Gen Y ก็มีแนวโน้มที่จะช็อปในสิ่งที่เขาพบเห็นจากวิดีโอออนไลน์มากกว่ากลุ่มผู้สูงวัยด้วย และยังซื้อสินค้าผ่านหน้าร้านจริงเป็นจำนวนมากด้วยเช่นกัน ดังนั้นร้านค้าจึงควรนำเทคโนโลยีการซื้อขายต่าง ๆ เข้ามาเสริมประสบการณ์การช็อปปิ้งให้กับลูกค้าในกลุ่มนี้ เพื่อเพิ่มความหลากหลายในการเข้าถึง และควรรับฟังเสียงความต้องการของลูกค้าด้วย
4. คุณค่าสูงความเสี่ยงต่ำ
ลูกค้าในปัจจุบันมีความรอบคอบในการเลือกจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น คุณค่าที่ลูกค้าจะได้รับจากแบรนด์จึงกลายเป็นสิ่งสำคัญมากกว่าเรื่องของราคา ที่จะเป็นสิ่งที่ลูกค้าใช้ตัดสินใจในการซื้อ และนอกจากนี้ ลูกค้ายังระมัดระวังในเรื่องของความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลมากขึ้นด้วย ดังนั้น ร้านค้าควรมอบคุณค่าให้กับลูกค้ามากขึ้นโดยที่ลดความเสี่ยงในการถูกละเมิดข้อมูลส่วนตัว
และนี่ก็เป็นแนวโน้มของเทรนด์การตลาดแห่งอนาคตที่เจ้าของร้านค้าออนไลน์ทุกคนควรจับตามองไว้ให้ดี! หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับร้านค้าเทพทุก ๆ ร้านนะคะ
แหล่งข้อมูล