Banner blog ร้าน Huangseng ห่วงเส็ง

จะทำอย่างไรให้ธุรกิจที่ครอบครัวสร้างมา ได้ไปต่อในยุคของเรา? คำถามนี้อาจจะเคยเกิดขึ้นกับใครหลายคนที่ต้องเป็นผู้รับช่วงต่อธุรกิจทางบ้าน ซึ่งแน่นอนว่าเราต้องหาหนทางที่จะทำให้ธุรกิจต่อไปได้อย่างไม่มีสะดุด เช่นเดียวกับคุณธเนศ เจ้าของร้าน Huangseng ที่เมื่อมารับช่วงต่อร้านจำหน่ายอุปกรณ์เย็บปักถักร้อยของทางบ้าน ก็ต้องหาตัวช่วยในการขายสินค้า แต่ตัวช่วยที่ว่านี้คืออะไร เราจะพาไปหาคำตอบกันค่ะ

Huangseng Craft ศูนย์รวมอุปกรณ์งานฝีมือครบวงจร

Huangseng (ห่วงเส็ง) ร้านจำหน่ายอุปกรณ์เย็บปักถักร้อย และอุปกรณ์งานฝีมือทุกชนิด ที่เปิดมานานกว่า 85 ปี เดิมมีหน้าร้านให้บริการอยู่ที่บางลำภู แต่ปัจจุบันได้ย้ายออกมาที่ทำเลใหม่ ซอยวัดบัวขวัญ (งามวงศ์วาน 21) เพื่อขยายหน้าร้านให้กว้างขึ้น รองรับลูกค้าได้สะดวกขึ้น

นอกจากนี้ ยังได้เปิดช่องทางขายบนออนไลน์ เพื่อเข้าถึงลูกค้ากลุ่มใหม่ ๆ ทั้งในช่องทางเว็บไซต์ www.huangseng.com, ช่องทาง Marketplace อย่าง Shopee, Lazada และโซเชียลมีเดียอย่าง Facebook, Instagram

เว็บไซต์ร้านห่วงเส็ง Huangseng
[หน้าเว็บไซต์ www.huangseng.com]

เพิ่มโอกาสสร้างยอดขายให้ธุรกิจด้วยช่องทางออนไลน์

เพราะทราบดีว่า กระแสของช่องทางออนไลน์จะส่งผลต่อพฤติกรรมการซื้อของลูกค้า คุณธเนศ เจ้าของร้านห่วงเส็ง รุ่นที่ 3 จึงต้องมองหาลู่ทางที่จะทำให้ร้านขายอุปกรณ์เย็บปักถักร้อยของครอบครัว ก้าวเข้าสู่ออนไลน์ให้ได้

จึงเลือกที่จะเปิดเว็บไซต์ www.huangseng.com เป็นช่องทางการขายช่องทางใหม่ เพื่อสร้างฐานลูกค้าบนออนไลน์ตั้งแต่ช่วง 10 ปีที่แล้ว และปัจจุบัน ก็ได้เพิ่มเติมช่องทางขายออนไลน์อื่น ๆ เข้ามาเสริมทัพ ทำให้ร้านห่วงเส็ง มีรายได้จากหลากหลายช่องทางมากขึ้น

ซึ่งความแตกต่างในการขายสินค้ารูปแบบออนไลน์และออฟไลน์ ในมุมมองของร้านห่วงเส็งนั้น คุณธเนศ เล่าให้เราฟังว่า… ทั้ง 2 รูปแบบมีลักษณะการทำงานที่แตกต่างกันมาก อย่างออฟไลน์ ลูกค้าเข้ามาซื้อของที่ร้าน ได้เห็นสินค้าจริง ได้จับ ได้ทดลองใช้งาน ทำให้เขาตัดสินใจซื้อได้เร็ว แต่ออนไลน์ ทุกอย่างคือโลกเสมือน เขาจะเห็นสินค้าผ่านรูปภาพ หรือวิดีโอ ซึ่งบางครั้งอาจไม่เพียงพอ จึงต้องอาศัยการอ่านรีวิวจากลูกค้าเก่า ๆ ที่เคยซื้อ ถึงจะช่วยให้เขาตัดสินใจได้ง่ายขึ้น

ภาพรีวิวสินค้าของร้านห่วงเส็ง (Huangseng) ในช่องทางการขาย Lazada
[ภาพรีวิวสินค้าของร้านห่วงเส็งในช่องทางการขาย Lazada]

นอกจากนี้ คุณธเนศยังได้แบ่งปันข้อดี-ข้อเสีย ระหว่างช่องทางขายบนเว็บไซต์กับ Marketplace ในมุมมองของร้านห่วงเส็งเพิ่มเติม ดังนี้

Marketplace เปรียบเสมือนห้างสรรพสินค้าออนไลน์ ที่เราสามารถเอาสินค้าไปขายได้ ด้วยการเข้าไปเช่าพื้นที่ตั้งร้านวางสินค้า

  • ข้อดี – ลูกค้าในห้างนี้มีเยอะ ทำให้มีโอกาสขายสินค้าได้ง่าย ซึ่งลูกค้าอาจไม่ได้ตั้งใจมาที่ร้านของเรา แต่เมื่อบังเอิญพบเจอ ก็เพิ่มโอกาสขายให้กับเราได้
  • ข้อเสีย – กฎเกณฑ์ทุกอย่างขึ้นอยู่กับเจ้าของห้าง ทำให้มีความไม่แน่นอน วันดีคืนดีร้านของเราอาจจะถูกปลด หรือหากแพลตฟอร์มเกิดปัญหาต้องปิดตัวลง ก็อาจจะไปต่อไม่ได้

Website เป็นเหมือนบ้านของเราเอง เหมือนเราซื้อตึกออนไลน์มาหนึ่งตึกเพื่อเปิดร้านค้า

  • ข้อดี – เราสามารถจัดการเองได้ทุกอย่าง มีความมั่นคงสูง มีโดเมนเป็นของตัวเอง สามารถตกแต่งหน้าร้านได้ตามต้องการ ที่สำคัญ มีข้อมูลลูกค้า ที่สามารถนำมาวิเคราะห์แนวทางทำการตลาดในอนาคตได้
  • ข้อเสีย – ต้องจัดการเองทุกอย่าง รวมถึงการโปรโมทและการทำการตลาดด้วย

เราต้องมีทุกช่องทางการขาย ไม่ว่าจะเป็นออฟไลน์ ออนไลน์ Marketplace หรือว่า Website เพราะช่องทางเหล่านี้จะช่วยเพิ่มโอกาสขายให้เราได้ทั้งหมด – คุณธเนศ เจ้าของร้าน Huangseng กล่าว

แชร์เคล็ดลับการขายที่ทำให้ร้านห่วงเส็งอยู่คู่กับลูกค้ามานานกว่า 85 ปี

  1. คัดสรรสินค้าที่มีคุณภาพ ใช้งานได้จริง
  2. ซื่อสัตย์กับลูกค้า ในแง่มุมของคุณภาพสินค้า การบริการ และการช่วยเหลือ
  3. ขายออนไลน์ต้องรวดเร็ว ตอบลูกค้าไว ส่งสินค้าเร็ว แพ็คสินค้าดี
  4. ทำคอนเทนต์ออนไลน์เข้าถึงลูกค้าหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการโพสต์รูปภาพ จัดทำวิดีโอ หรือลงสตอรี่ ทั้งหมดนี้เพื่อเพิ่มการมองเห็นสินค้า และสร้างโอกาสในการขาย
  5. ลงโฆษณาโปรโมทสินค้าตามช่องทางที่เหมาะสม
Quote ร้านห่วงเส็ง Huangseng

และนี่ก็เป็นแนวคิดการขายจากร้านห่วงเส็ง ร้านจำหน่ายอุปกรณ์งานฝีมือครบวงจร ที่มาแบ่งปันมุมมองการสานต่อธุรกิจครอบครัวให้ประสบความสำเร็จทุกยุคทุกสมัยนั่นเองค่ะ

ทั้งนี้ LnwShop ต้องขอขอบคุณ คุณธเนศ เจ้าของร้าน Huangseng ร้านค้า The Highlight Shop ประจำเดือน กันยายน 2565 สำหรับการให้สัมภาษณ์ในครั้งนี้มาก ๆ เลยนะคะ :)

ช่องทางติดต่อร้าน Huangseng