Marketplace

ใครขายของผ่าน Shopee หรือจะขายของผ่าน Lazada ก็ต้องอ่านบทความนี้! เพราะว่าสำหรับการขายของออนไลน์ แล้ว การขายผ่าน Marketplace ถือเป็นอีกหนึ่งช่องทางการขายที่ใครก็ไม่อยากพลาดจริงไหมคะ? นอกจากจะช่วยเพิ่มยอดขาย ยังเพิ่มโอกาสในการได้ลูกค้าใหม่ๆ อีกด้วย แต่แน่นอนว่าการขายของบนตลาดรวมสินค้าขนาดใหญ่อย่างช้อปปี้ หรือลาซาด้า เราย่อมต้องเจอกับคู่แข่งนับร้อยที่ขายสินค้าชนิดเดียวกัน แล้วเราจะทำอย่างไรดีนะ ให้สินค้าของเราโดดเด่นขึ้นมาจนลูกค้าต้องเลือกคลิก!

Marketplace คือ เว็บไซต์ตลาดกลางซื้อขายสินค้าออนไลน์ ที่รวมเอาสินค้าจากร้านค้าต่าง ๆ มาขายให้กับผู้ซื้อ อาทิ ช้อปปี้, ลาซาด้า, Moohouz และ LnwMall

1. ศึกษา Marketplace ที่เราขายสินค้า

marketplace promotion

สิ่งแรกที่อยากแนะนำให้ผู้ขายของผ่าน Shopee, Lazada หรือ Marketplace ต่าง ๆ ควรทำก่อน นั่นก็คือการศึกษาข้อมูลมาร์เก็ตเพลสที่เราจะขายสินค้าว่ามีเงื่อนไขอย่างไร มีข้อมูลใดของสินค้าที่ถูกแสดงบ้าง สินค้าแบบไหนที่ให้ขาย สินค้าแบบไหนมีเงื่อนไขพิเศษอะไร ฯลฯ ซึ่งแต่ละมาเก็ตเพลส โดยเฉพาะ Lazada หรือ Shopee มักจะมีการนำเสนอข้อมูลที่แตกต่างกัน หากเรารู้ข้อมูลตรงนี้ เราก็จะเตรียมข้อมูลสินค้าได้เหมาะสม เพื่อให้เว็บเหล่านั้นชอบสินค้าของเรา ซึ่งอาจจะหมายถึงการนำสินค้าของเราไปนำเสนอในหน้าแรกได้ด้วย นอกจากนี้การหมั่นอัพเดทข้อมูลข่าวสาร ยังทำให้เรารู้ว่าตอนนี้ เว็บไซต์ที่เราจะไปฝากขายนั้นกำลังสนับสนุน หรือจัดโปรโมชั่นให้กับสินค้าชนิดไหน เพื่อร้านเราจะได้ไม่พลาดโอกาสในการถูกโปรโมทสินค้านั่นเอง

2. ไม่ว่าจะขายของผ่าน Shopee ขายผ่าน Lazada หรือ Marketplaceไหน รูปสินค้าก็ต้องสวย สะดุดตา

product picture

สิ่งแรกที่จะเตะตาลูกค้าก็คือรูปภาพ ตามหลักแล้วรูปแรกของสินค้าควรเป็นรูปที่เราให้ความสำคัญมากที่สุด เนื่องจากเป็นสิ่งที่จะดึงดูดให้ลูกค้าคลิกสินค้าของเรา แต่แน่นอนว่ารูปอื่นๆ ด้านในก็ต้องใส่ใจเช่นกันค่ะ ซึ่งรูปสินค้าที่ดีนั้น…

  • ภาพต้องสวย ดึงความสนใจ เห็นสินค้าที่ขายชัดเจน แบบเห็นแล้วรู้ทันทีว่าขายอะไร
  • สีพื้นหลังของภาพต้องไม่ดูน่าสนใจกว่าตัวสินค้า ตัวสินค้าต้องเด่นที่สุดเสมอ
  • แสดงให้เห็นการใช้งานของสินค้า ได้จะยิ่งดีเช่นถ้าขายเสื้อ อาจจะใช้รูปนางแบบที่ใส่เสื้ออยู่ แทนรูปเสื้อที่วางเฉยๆ
  • ไม่ควรมีตัวหนังสือ, ลายน้ำขนาดใหญ่บนรูปสินค้า เพื่อแย่งความสนใจจากรูปสินค้า
  • ขนาดของภาพต้องเหมาะสม ถ้ารูปสวย แต่ไฟล์เล็กจนรูปแตกเบลอ ก็จบเลยค่ะ
  • อย่าลืมดูด้วยว่าทาง Shopee, Lazada หรือ Marketplace ที่เราจะไปขายกำหนดขนาด หรืออัตราส่วนภาพสินค้าไว้เท่าไหร่ เพื่อให้เราสามารถเลือกใช้ภาพได้ในขนาดที่เหมาะสมที่สุด
  • เว้นช่องว่างระหว่าง ตัวสินค้า กับขอบของภาพบ้าง จะช่วยทำให้สินค้าดูเด่นยิ่งขึ้น

3. ชื่อสินค้า ต้องมี Keyword และอยู่ในตำแหน่งที่ชัดเจนที่สุด

product name

อีกส่วนที่สำคัญไม่แพ้รูป ก็คือ “ชื่อของสินค้า” ผู้ขายควรใช้คำที่ดึงดูด และนำส่วนสำคัญไว้ด้านหน้า ให้ลูกค้าอ่านแล้วเข้าใจได้ทันทีที่เห็น ไม่ยาวเกินไปจนส่วนสำคัญถูกตัดออก รวมถึงมี Keyword ที่ลูกค้าใช้ค้นหาอยู่ในชื่อสินค้า เช่น สินค้าที่ลูกค้ามักระบุ ยี่ห้อ รุ่น หรือสีในเวลาค้นหา ก็ควรมีข้อมูลเหล่านี้ในชื่อสินค้าด้วย และเพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือของร้าน ชื่อรวมถึงรายละเอียดอื่นๆ ของสินค้า ควรใช้หลักภาษาและการสะกดที่ถูกต้องด้วยนะคะ ยิ่งการขายใน Shopee หรือ Lazada มักจะมีผู้ขายต่างชาติมาร่วมขายด้วย การใช้ภาษาที่ถูกต้องจะสร้างความแตกต่างได้มากเลยล่ะ แอบกระซิบว่าหากของเหมือนกัน ราคาเท่ากัน ผู้ซื้อก็มักจะเลือกซื้อจากผู้ขายในประเทศก่อนต่างประเทศนะ

——–

สำหรับการนำเสนอข้อมูลสินค้า สามารถไปอ่าน Howto แบบเต็มๆ

ได้ที่ >> 4 เคล็ดวิชานำเสนอข้อมูลสินค้าให้ปัง! สำหรับการขายของออนไลน์

——–

4. ราคาสินค้า ไม่จำเป็นต้องถูกที่สุดก็สะดุดตาได้

product price

ตามหลักพื้นฐานแล้วราคาของสินค้าจะต้องครอบคลุมต้นทุนทั้งหมด ต้นทุนในทีนี้ไม่ได้มีแค่ทุนของสินค้านะคะ ยังหมายถึงค่าแรง ค่าดำเนินการ ค่าธรรมเนียมต่างๆ ที่ร้านต้องเสียอีกด้วย ส่วนจะตั้งราคาอย่างไรนั้น ก็อยู่ที่กลยุทธ์และกลุ่มลูกค้าของแต่ละร้าน

  • ราคาไม่จำเป็นต้องถูกที่สุด แต่ต้องเหมาะกับกลุ่มลูกค้า และ Posittion ของสินค้า การตั้งราคาที่ต่ำกว่าตลาดมากๆ นอกจากร้านจะไม่ได้กำไรแล้ว ยังอาจดูไม่น่าเชื่อถือด้วยค่ะ
  • มีการให้ส่วนลด จัดโปรโมชั่นเพื่อกระตุ้นการซื้อบ้าง แต่ต้องไม่ใช่การใส่ราคา Overprice แล้วมีส่วนลดตลอด
  • คำว่า “ส่งฟรี” จะทำให้สินค้าของเราโดดเด่นกว่าชิ้นอื่นๆ แนะนำว่าถ้ารวมค่าส่งในราคาสินค้า แล้วราคายังไม่สูงกว่าตลาดมาก กลยุทธ์นี้ก็น่าสนใจ

5. รีวิวยิ่งดี ยิ่งมีสิทธิ์ชนะ!

product review

ไม่ว่าคุณจะขายในมาเก็ตเพลสไหน จะช้อปปี้ หรือลาซาด้าข้อนี้ก็สำคัญมาก เพราะสินค้าที่เหมือนกันแทบทุกอย่างจะมาชนะกันก็ตรงรีวิวนี่ล่ะ ซึ่งนอกจากลูกค้าจะรีวิวสินค้าแล้ว ยังรวมไปถึงการดูแลลูกค้าของร้านด้วยค่ะ ดังนั้นยิ่งถ้าเราดูแลดี มีการพูดคุยให้คำแนะนำที่ดีกับลูกค้า จัดส่งสินค้ารวดเร็ว หมั่นสร้างความประทับใจให้ลูกค้า ยิ่งมาร์เก็ตเพลสไหนมีการให้ประโยชน์กับลูกค้าที่รีวิว (เช่น ลูกค้าที่รีวิวการสั่งซื้อบน LnwMall.com จะได้รับ LnwPoint เป็นส่วนลดการสั่งซื้อครั้งต่อไป) ร้านค้าอาจจะเขียนโน้ตบอกลูกค้าแนบไปด้วย รับรองว่าลูกค้ารายไหนๆ ก็อยากกลับมารีวิวให้

6. ข้อมูลที่เป็นมิตรกับ Platform โฆษณา

Google Shopping

สุดท้ายอย่างที่ทราบกันว่าการขายของผ่าน Lazada การขายของผ่าน Shopee หรือบน Marketplace สินค้าของเราย่อมมีโอกาสถูกนำไปโปรโมทด้วยวิธีต่างๆ เหมือนกับที่เห็นโฆษณาของ Shopee หรือ Lazada เต็มไปหมดใน Google Search ดังนั้นการใส่ข้อมูลสินค้าให้มีรูปแบบที่เหมาะสมกับแพทฟอร์ม โฆษณา เช่น ใช้รูปสินค้าบนพื้นหลังสีขาวล้วน ตามแนวทางการโฆษณาสินค้าของ Google Shopping Ads ก็ย่อมเพิ่มโอกาสให้สินค้าของเรามีสิทธิ์ได้รับการโปรโมทมากกว่า เวลาที่มาร์เก็ตเพลสจะลงโฆษณานั่นเองค่ะ

————————————————-

ด้วย How to การปรับแต่งข้อมูลสินค้า ทั้งเนื้อหา ภาพสินค้า และรายละเอียดทั้งหมดนี้ หากผู้ขายนำไปปรับได้ รับรองได้เลยว่าไม่ว่าคุณจะ ขายใน Shopee, Lazada, Moohouz หรือ LnwMall ก็ขายได้ขายดีแน่นอน ยังไงก็อย่าลืมนำไปปรับใช้เพื่อเพิ่มความโดดเด่นให้กับสินค้าดูนะคะ

และหากผู้ขายรายไหนที่ยังไม่ได้ขยายช่องทางการขาย เพราะยังไม่มีเวลาลงสินค้าใหม่หลายๆ ที่ แอบกระซิบว่า LnwShop เอง กำลังจะเปิดตัวบริการเชื่อมต่อกับ Marketplace เจ้าใหญ่ รับรองว่าสะดวก ง่าย ไม่ต้องลงสินค้าหลายที่ให้วุ่นวาย สิทธิพิเศษนี้มีเพื่อร้านค้าเทพเท่านั้น อยากรู้ว่าเป็นอย่างไร ลองคลิกไปดูก่อนใครที่ >> www.lnwshop.com/store/lazada และ www.lnwshop.com/store/shopee ได้เลย!