เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา สมาคมผู้ดูแลเว็บไทยได้จัดสัมมนาจิบกาแฟคนทำเว็บ ในหัวข้อ รวยด้วยอีคอมเมิร์ซ ขายของออนไลน์อย่างไรให้เวิร์ค ซึ่งทีมงาน LnwShop ได้เข้าร่วมสัมมนาดังกล่าวด้วย เราเลยขอนำประเด็นน่าสนใจจากงานสัมมนาดังกล่าวมาฝากเจ้าของร้านเทพกันค่ะ
รู้จักกับ Webpresso จิบกาแฟคนทำเว็บกันก่อน
Webpresso จิบกาแฟคนทำเว็บ เป็นงานสัมมนาที่จัดโดยสมาคมผู้ดูแลเว็บไทยด้วยแนวคิดที่ต้องการให้เป็นงานพูดคุย แลกเปลี่ยนความรู้ ประสบการณ์และข้อมูลข่าวสารที่เป็นประโยชน์กันในกลุ่มสมาชิกสมาคมฯ และผู้สนใจทั่วไป ซึ่งกิจกรรม Webpresso จิบกาแฟคนทำเว็บจะมีการจัดกิจกรรมเดือนละหนึ่งครั้ง โดยในเดือนกรกฎาคม 2014 นี้ได้จัดเสวนาในหัวข้อ “รวยด้วยอีคอมเมิร์ซ ขายของออนไลน์อย่างไรให้เวิร์ค”
ผู้ร่วมจิบกาแฟในครั้งนี้
วิทยากร
1. คุณวรงค์ชนก เทียมทินกฤต เจ้าของร้านค้าออนไลน์ Galsfin.lnwshop.com ร้านจำหน่าย “ยาหม่องสมุนไพร” ที่ขายไปไกลทั่วโลก คุณวรงค์ชนกจะมาร่วมบอกเล่าประสบการณ์ให้ฟังกันค่ะ
2. คุณอำพา ยงพิศาลภพ รองกรรมการผู้จัดการบริษัท ซีพี ออลล์จำกัด(มหาชน)และรองกรรมการผู้จัดการบริษัท ทเวนตี้โฟร์ช็อปปิ้ง จำกัด จะมาร่วมพูดคุยในหัวข้อการจัดการอีคอมเมิร์ซและการขนส่งในรูปแบบต่างๆ
3. คุณภวรัญชน์รัตน์ ภู่วิจิตร์ บรรณาธิการ บริษัท โปรวิชั่น จำกัด ผู้เขียนหนังสือ รวยออนไลน์ นำเข้าสินค้าจากทั่วโลก ที่จะมาแชร์เรื่องการค้นหาสินค้าเด็ด สินค้าโดนใจผู้บริโภคจากทั่วทุกมุมโลก
พิธีกร
1. คุณศุภเดช สุทธิพงศ์คณาสัย @ripmilla พิธีกรรายการแบไต๋ไฮเทค เจ้าของเว็บไซต์ freeware.in.th
2. คุณศรีสุดา วินิจสุวรรณ @sresuda พิธีกรและผู้ประกาศข่าวชื่อดังจาก MCOT
วีดีโองาน Webpresso จิบกาแฟคนทำเว็บ หัวข้อรวยด้วยอีคอมเมิร์ซ ขายของออนไลน์อย่างไรให้เวิร์ค
สรุปประเด็น “รวยด้วยอีคอมเมิร์ซ ขายของออนไลน์อย่างไรให้เวิร์ค”
การเลือกสินค้ามาขาย
- คนที่คิดอยากเปิดร้านค้าออนไลน์มีทั้งแบบที่มีสินค้าอยู่ในมือ และแบบคนทั่วไปที่อยากขายแต่ยังไม่มีสินค้า ซึ่งสิ่งของที่คุณจะเลือกขายควรเป็นสินค้าที่คุณอยู่ด้วยแล้วมีความสุข เพราะคุณต้องอยู่กับสินค้าและร้านค้าออนไลน์ตลอด 24 ชม.
- การเลือกสินค้ามาขายในออนไลน์ ถ้ายังไม่รู้จะเลือกอะไรให้มองที่ Lifestyle ของตนเอง และควรนำสินค้ามาลองใช้ รีวิวสินค้าเองก่อนขาย ถ้าเรามั่นใจว่าสินค้าดีจริง แล้วพูดได้ทุกมิติว่าสินค้าดียังไง ก็จะทำให้คนซื้อมั่นใจ
- ก่อนจะนำสินค้าขึ้นมาขายในโลกออนไลน์ ต้องมองหาจุดอ่อน/จุดแข็งสินค้า และแก้ปัญหาต่างๆ ที่ออนไลน์ให้คำตอบลูกค้ายาก เช่น ยาหม่องอาจจะมีคำถามว่ากลิ่นเป็นแบบไหน ใช้แล้วหายจริงไหม ต้องหาทางตอบคำถามเหล่านี้ให้ได้ก่อน
- สำหรับคนที่มีสินค้าอยู่ในมืออยู่แล้วก็ต้องมองหาจุดเด่นของสินค้าให้เจอ แล้วนำจุดเด่นนั้นมาต่อยอดในการทำการตลาด ร้าน Galsfin ใช้จุดเด่นในเรื่องของการเป็นยาหม่องที่แก้ไมเกรน
- Galsfin เริ่มต้นโปรโมทจาก การแจกฟรี และให้คนที่ได้นำไปลองใช้ แล้วเห็นผลดี ก็เชิญชวนให้กลับมา Reviews เพื่อทำให้ลูกค้าเชื่อว่าสินค้าของเราดีจริง
- สินค้าที่มีขายกันจะมี 2 ประเภท คือ 1. สินค้าอุปโภค บริโภค 2. สินค้าตามเทรนด์ ซึ่งสินค้าตามเทรนด์กระแสจะมีอายุในตลาดค่อนข้างสั้น
- Google trends ใช้เลือกว่าสินค้ามาขายได้ มีคนเสิร์ชคำไหนมาก เทียบกันกับคีย์เวิร์ดคำอื่นดูว่าเทรนด์มาหรือยัง หรือว่ากำลังจะตก
Google Trends คืออะไร ? Google Trends เป็นอีกหนึ่งบริการของกูเกิล ผู้ให้บริการเสิร์ชเอนจิน เบอร์หนึ่งของโลก มาแล้วเกือบสิบปี ในขณะที่บริการ Google Trends (ชื่อเดิม Google Insights for Search) เปิดบริการมาตั้งแต่ ปี ค.ศ.2008 มันเป็นบริการที่ให้คุณสามารถใช้ค้นหาแนวโน้มของ การค้นหาด้วยคีย์เวิร์ด ของชาวเน็ต เพราะแต่ละคำที่คุณพิมพ์เพื่อใช้ค้นหาข้อมูลที่ต้องการบนเว็บกูเกิลนั้น มันเก็บสถิติ และข้อมูลเอาไว้ทั้งหมด เพื่อนำเอามาวิเคราะห์เชิงลึกเอาไว้ทั้งหมด ในแต่ละช่วงเวลาในระดับปี ระดับเดือน นอกจากนี้ยังสามารถหาแนวโน้มการค้นหาของผู้ใช้อินเทอร์เน็ต ในแต่ละพื้นที่ สามารถเจาะลงลึกไปถึงจังหวัด และ รัฐ เลยทีเดียว อีกปัจจัยหนึ่งที่สามารถใช้กำหนดเป็นเงื่อไขในการค้นหา หรือดูแนวโน้มได้นั่นคือ ภาษาที่ตั้งค่าเอาไว้ของผู้เล่นเน็ต เรียกได้ว่าละเอียดยิบ มากๆ เลยทีเดียว – ที่มา www.thanop.com/google-trends
เครื่องมือสำหรับการขาย
- จุดคิด 4 เรื่องของ 7-Eleven ที่ทำให้เกิดเป็นระบบอีคอมเมิร์ซของเครือเซเว่น คือ 1. จำนวนร้านเซเว่น 2. การเปิด 24 ชม. 3. การขนส่งสินค้า 4. ระบบเน็ตเวิร์กภายในที่มีอยู่แล้ว เนื่องจากเดิมเวลาสั่งสินค้าจากร้านเซเว่นก็จะใช้ระบบออนไลน์ช่วย จาก 4 ข้อที่เป็นสิ่งที่เซเว่นมีอยู่แล้วทำให้เกิดการปูพื้นฐานให้คนเซเว่นเห็นว่ายังมีการค้ารูปแบบอื่นนอกจากการขายผ่านหน้าร้าน เริ่มต้นด้วย 7 Catalog และในตอนนี้ก็เข้าสู่ยุค e-commerce แล้ว ทำให้เกิดเป็น 24Shopping
- สินค้าบน 24 Shopping มีทั้งเหมือน และไม่เหมือนกับใน 7-eleven เพราะการที่มีสินค้าไม่เหมือนกัน ทำให้เกิดความแตกต่าง สินค้าทุกชนิดอยู่บนเว็บได้แต่อยู่ในร้านทั้งหมดไม่ได้ หากสินค้าทุกชนิดอยู่ในร้านอาจจะขายไม่ออกในบางสาขา แต่ในเว็บไซต์สามารถทำได้
- Galsfin เริ่มจาก Fanpage เพราะไม่พร้อมทำเว็บ แต่เปิดเว็บเพราะแฟนเพจเข้าถึงลูกค้าได้ไม่ครบทุกกลุ่ม บางร้านจะมีปัญหากับลูกค้าที่แจ้งชำระเงินผิดเวลา แต่ Galsfin ใช้เว็บไซต์เป็นตัวจัดการหลัก ซึ่งในเว็บมีระบบอัตโนมัติอยู่แล้ว ทำให้ลดขั้นตอนการทำงานลงได้
- instragram ควรมองเป็นช่องทางเสริมในการขายของ แต่ไม่ควรเป็นช่องทางหลัก ยิ่งเรามีช่องทางมากก็ยิ่งเข้าถึงลูกค้าได้มาก
- การมี Web เอาไว้เก็บข้อมูลลูกค้า เพื่อทำการตลาดต่อ… ฐานลูกค้ามีความสำคัญมากในการทำการตลาดต่อไป โดยเฉพาะถ้ามีอีเมลแล้วจะสามารถทำ e-mail marketing ได้
- เว็บร้านค้าออนไลน์หากต้องการขายผ่าน 24Shopping ก็สามารถทำได้ ขอแค่สินค้าไม่ผิดกฏหมาย และ ต้องสามารถส่งของให้ลูกค้าได้ทุกชิ้นก็เพียงพอ ซึ่งจะช่วยให้ลูกค้าสามารถไปรับสินค้า – ชำระเงินกับ 7-eleven ได้เลย
การตั้งราคา
- ฐานลูกค้าของ 24shopping ที่ซื้อออนไลน์อยู่ตจว.มากกว่าในกทม. เป็น 60:40 สินค้าเด่นคือ เครื่องสำอางค์ ความสวยความงาม ผู้หญิงเป็นผู้ซื้อหลักกว่า 75% ส่วนผู้ชายจะซื้อสินค้าไอทีมากกว่า ส่วนใหญ่สินค้าที่สบายใจในการช้อปออนไลน์คือ ต่ำกว่า 900 บาท แต่เกินพันก็มีขายได้อยู่บ้าง ของ 24shopping การสั่งซื้อต่อ billing จะอยู่ที่ประมาณ 3,000 บาท
- การตั้งราคา เริ่มที่ดูที่ต้นทุน และในช่วงเปิดตัวจะขายด้วยราคาพิเศษเพื่อให้ลูกค้าได้ทดลองใช้ก่อน ถ้าของดีจริงก็จะเกิดการบอกต่อ และพร้อมจ่าย
- หากนำเข้าสินค้าจากจีนให้คิดราคา X3 เพราะว่าสินค้ามีโอกาสเสีย 1 ใน 3
- การคิดราคาสินค้าควรเช็คราคาตลาด + ดูช่วงเวลาของกระแสสินค้า + ความน่าสนใจของสินค้า
การบริการ
- การขายออนไลน์ควรมีการรับคืนสินค้า เพื่อเพิ่มความมั่นใจให้กับลูกค้า ว่าเขาจะได้สินค้าที่ตรงกับความต้องการของเขาจากร้านของเราจริง
- การลงสินค้าในเว็บควรคำนึงถึงความเป็นจริงของสินค้าให้มาก
- เวลาส่งของควรแจ้งลูกค้าว่า หากต้องการคืนสินค้า ต้องขอคืนภายในกี่วัน เพื่อลดปัญหา
- ในหลักสากลควรการันตีการให้คืนสินค้า ใน 30 วัน แต่หากเกิดความผิดพลาดในสินค้าจริง ต่อให้เวลานาน 6 เดือน แต่สินค้าผิดพลาดจริงก็ควรจะต้องให้คืน
- ในยุโรป การันตีการคืนสินค้า ที่ 1 ปี และในปัจจุบันขยายเวลาเป็น 3 ปี
- การให้ลูกค้าคืนของเป็นการซื้อใจลูกค้าด้วย เพราะคำว่า “แค่นี้” ของเรากับของลูกค้าไม่เท่ากัน
- ลูกค้าถือว่าเป็นผู้มีพระคุณที่มาอุดหนุนเราด้วย
การขนส่ง
- ร้าน Melonbox ใช้บริการ Cash on delivery ทำให้ลูกค้ามั่นใจในการสั่งซื้อมากขึ้น เนื่องจากสินค้ามีราคาแพงคนไม่กล้าสั่งซื้อ แต่พอมีระบบ Cash on delivery ช่วยทำให้ลูกค้ากล้าตัดสินใจมากขึ้น
- ขายออกนอกประเทศเล็กๆน้อยๆ อาจจะใช้ไปรษณีย์ไทย แต่หากเป็นปริมาณมากก็แนะนำให้ใช้บริการ Shipping
- บางครั้งการสั่งจากโรงงานต้องการจำนวนเยอะๆ แต่เมื่อเราสั่งผ่าน Shipping ทาง Shipping อาจจะหาคนที่สั่งของเหมือนเรา เพื่อนำมารวมจำนวนกัน แล้วสั่งได้เร็วกว่า หรือได้ในราคาตามจำนวนขั้นต่ำของโรงงาน รวมถึง Shipping ยังสามารถทำ QC สินค้าให้เราได้ เราแค่จ่ายค่าดำเนินการอย่างเดียวเท่านั้น
- ก่อนจัดขนส่งต้องทดลองแพ็ค โยน เขวี้ยง ก่อนส่งเพื่อให้ลูกค้าได้สินค้าที่ดีที่สุด และไม่มีปัญหาเวลาจัดส่ง
แหล่งหาสินค้า
- อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ต้องตามหาที่เสือป่าพลาซ่า, เสื้อผ้าแฟชั่นที่เพล็ตตินัม ประตูน้ำ, ของกุ๊กกิ๊กน่ารักต้องหาจากสำเพ็ง แต่ของทั้งหมดนี้สามารถหาได้จากประเทศจีน
- ในช่วงแรกเงินทุนน้อยอาจจะลดความเสี่ยงด้วยการหาสินค้าในไทยมาขายในปริมาณน้อยก่อน เมื่อขายดีอาจจะต้องลองมองหาจากแหล่งผลิต เช่น การหาสินค้าในจีน ก็อาจจะลองเสริชจาก alibaba.com ซึ่งปกติร้านในนี้จะรับออเดอร์ปริมาณมาก แต่อาจจะต่อรองได้
- การหาของจากจีนไม่ต้องกลัวเรื่องภาษา เพราะเขาก็ไม่ได้คุยภาษาอังกฤษเก่งกว่าเรา หรือใช้ Google Translate เป็นตัวช่วยด้านภาษา อีกเว็บสำหรับการหาสินค้าจากจีนก็จะเป็น Taobao.com
- การนำเข้าสินค้าจากจีน แนะนำให้ใช้บริการตัวกลาง อย่าง Shipping มาช่วย
- การนำเข้าของจากต่างประเทศมาไทย ถ้าเกิน 1,000 มักจะโดนเก็บภาษี ซึ่งอัตราภาษีไม่แน่นอน.. ถ้าใช้บริการ shipping จะง่ายกว่า เราควบคุมต้นทุนได้
- สินค้านำเข้าจากเกาหลี ส่วนใหญ่จะเว็บไซต์แยกตามประเภทสินค้าอยู่แล้ว
- นอกจากจีน / เกาหลี สินค้าที่ถูกนำเข้ามาขายส่วนใหญ่ก็จะมาจากฝั่งยุโรป ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสินค้าแบรนด์เนม แต่ต้องระวังเพราะบางครั้งสินค้าแบรนด์เนมที่นำเข้าถึงแม้ว่าจะเป็นสินค้าถูกกฎหมาย แต่อาจจะมีเรื่องของลิขสิทธิการขายรายเดียวในประเทศไทยอยู่แล้ว ทำให้เกิดปัญหากับเราได้เหมือนกัน
- ในเมืองจีนจะมีงานแฟร์ ที่โชว์สินค้าให้เลือกซื้อกัน ตอนนี้ก็มีการจัดทัวร์แม่ค้าพาไปซื้อของที่จีนโดยจะมีไกด์แนะนำพาเราไปคุยกับร้าน มีทั้งไปงานกวางเจาแฟร์ และแบบไม่ได้ไปงานแฟร์ แค่เดินตลาดค้าส่งทั่วไป
- การเดินงานแฟร์เป็นการสร้างแรงบันดาลใจมากกว่าการหาของมาขาย เพราะงานแฟร์บอกเราว่ามีอะไรใหม่น่าสนใจบ้าง
- ถ้าเราจ้างทางจีนทำโลโก้/สินค้า ให้ทำใจไว้ว่าโลโก้เรามีสินค้าอื่นที่เราไม่ต้องการขายด้วย เช่นสั่งทำกระปุกใส่ยาหม่อง ที่จีนอาจจะมีกระปุกแบบเดียวกันแต่ขายสินค้าประเภทอื่นออกมาวางขาย
การจัดการลูกค้า
- ร้าน Galsfin เคยโดนลูกค้าโกง โดยแจ้งชำระเงินแต่เงินไม่เข้า ซึ่งร้านค้าควรจะต้องเช็คยอดให้ดีก่อนจัดส่งสินค้า
- ร้าน Galsfin ไม่ค่อยมีปัญหาการเปลี่ยนของ เพราะมีการแนบจดหมายไปด้วยว่าสามารถขอคืนเงินได้ภายใน 7 วัน
- คุณนาน่ายังบอกเคล็ดลับอีกว่า เวลาพิมพ์อีเมลเราต้องยิ้มไปด้วย เพราะเวลาอ่านเมลลูกค้าเขาจะรับรู้อารมณ์ของเราได้
- เราต้องระวังการตอบคำถามเพื่อภาพลักษณ์ของร้านเราด้วย
- การตอบคำถามควรตอบสดๆ คุยกับลูกค้าตรงๆ
- คอมเม้นต์ของลูกค้าเป็นกระจกสะท้อนให้เห็นการทำงาน และจุดอ่อนในระบบต่างๆของเรา
- 24Shopping พนักงาน.ที่รับคอมเม้นต์จะมีกระจกวางไว้หน้า เพื่อดูหน้าตาและอารมณ์ ถ้าเครียดต้องมีคนมารับช่วงแทน แล้วให้พนักงานคนนั้นไปพักก่อน
- 1 รายการสั่งซื้อ = 1 ความรู้สึกของลูกค้า
- ร้าน Galsfin มีการตั้งเวลาแจ้งลูกค้าว่าจะตอบอีเมลเมื่อไหร่ ยอดโอนเงินตอนไหน จัดส่งเวลาใด เพื่อความชัดเจน คุณนาน่าคิดว่า คำว่าลูกค้า ลูกก็เหมือนเป็นลูกเรา เราเลี้ยงดูเามายังไงเขาก็จะโตมาเป็นคนพันธ์นั้น ลูกค้าก็จะซึมซับว่าต้องอ่านก่อนนะ
- ลูกค้าปกติจะอ่านข้อความแค่ 10% ถ้าเพิ่มรูปภาพเข้ามาจะอ่านเพิ่ม 30% ของ 24Shopping มีการลองปรับเช่น ขายพรมเช็ดเท้า ก็มีการนำภาพเท้าไปวางเทียบ
เครื่องมือเสริมสำหรับร้านค้าออนไลน์
- Google Doc หรือ Excel สำหรับสรุปข้อมูลลูกค้า ใช้การใส่รหัสรายการสั่งซื้อเพื่อให้ง่ายต่อการจัดการ/ค้นหา และสามารถทำรายงานยอดขายได้ ซึ่ง Google Doc/Google Drive ช่วยให้สามารถทำงานนอกสถานที่ได้ และยังแชร์ข้อมูลกับหุ้นส่วนคนอื่นๆได้ด้วย
- Dropbox แชร์ภาพ/ข้อมูล สำหรับหุ้นส่วนอื่นๆ
********************************
เป็นยังไงบ้างคะกับการเสวนาในหัวข้อ “รวยด้วยอีคอมเมิร์ซ ขายของออนไลน์อย่างไรให้เวิร์ค” โดนใจเจ้าของร้านค้าเทพกันบ้างไหมคะ คิดว่าบทความนี้คงเป็นประโยชน์กับเจ้าของร้านเทพบ้างนะคะ :) และถ้ามีเสวนาดีๆ สาระน่าสนใจสำหรับเจ้าของร้านเทพ รับรองว่าทีมงาน LnwShop จะเก็บเอาสาระความรู้ต่างๆ มาฝากกันอีกค่ะ ^^ ก่อนจบบทความนี้ปิดท้ายกันด้วยภาพรวมบรรยากาศของงาน Webpresso จิบกาแฟคนทำเว็บ หัวข้อ “รวยด้วยอีคอมเมิร์ซ ขายของออนไลน์อย่างไรให้เวิร์ค” ในครั้งนี้ แล้วพบกันใหม่บทความหน้านะคะ :)
ขอบคุณข้อมูล
- สมาคมผู้ดูแลเว็บไทย
- WEBPRESSO แนะเทคนิค “รวยด้วยอีคอมเมิร์ซ ขายของออนไลน์อย่างไรให้เวิร์ค!”- CP All
- Twitter : @m78a และ @mesayreya