สร้างความได้เปรียบด้วยกลยุทธ์ของซุนวู “ออกดอกบนต้น”

ในยุคของการแข่งขันทางด้านธุรกิจ ผู้ที่มีกำลังอ่อนด้อยอย่างองค์กรขนาดเล็ก จำเป็นต้องแข่งสู่กับองค์กรขนาดใหญ่ที่มีชื่อเสียงและมีกำลังเข็มแข็ง ซึ่งเป็นเรื่องที่ยากมากหากจะสู้กันตรงๆ ปะทะเข้าชน เพราะเราจะแพ้ได้อย่างง่ายดาย ซุนวูได้กล่าวว่า เราต้องยืมสถานการ์อื่นเพื่อสร้างความได้เปรียบให้กับเรา จะสามารถทำให้ไพร่พลของเราที่อ่อนด้อยเปลี่ยนเป็นเข็มแข็งได้ นั่นคือ “ออกดอกบนต้น”

ตัวอย่างกลยุทธ์ “ออกดอกบนต้น” ในสมัยอดีต

ในยุคของสามก๊ก โจโฉรบศึกชนะทัพของเล่าปี่ และได้ตามไล่ล่าเพื่อหมายเอาชีวิตของเล่าปี่ให้ได้ เล่าปี่ที่นำทัพหนีมาถึงเขตตังหยางแล้ว จึงสั่งให้เตียวหุยคอยระวังหลัง สกัดกองกำลังทหารที่จะไล่ตามมา ด้วยความที่ตอนนั้น เตียวหุยมีทหารม้าเพียงหยิบมือเท่านั้น หากจะต้านกำลังนับแสนของโจโฉ การเข้าปะทะจึงไม่สามารถทำได้ เตียวหุยจึงสังทหารม้าให้ไปหลบอยู่ในป่า แล้วให้ตัดกิ่งไม้ไปผูกหางม้าและวิ่งวุนอยู่ในป่า ส่วนตนเองจะไปยืนอยู่ข้างหน้านอกป่าเพียงผู้เดียว โจโฉไล่ทัพมาถึง เห็นเตียวหุยยืนอย่างองอาจ แถมตะโกนอย่างเกรงขามให้เข้ามาสู้ แม่ทัพฝั่งโจโฉจึงหวาดกลัวว่าจะมีอะไรอยู่เบื้องหลัง ซึ่งเป็นกำลังของเตียวหุยด้วยแล้วยิ่งน่ากลัวนัก จึงได้ล่าถอยกลับ ส่วนเตียวหุยได้พังสะพานและมุ่งหน้าเพื่อไปสบทบกับเล่าปี่ต่อไป

การประยุกต์กลยุทธ์ “ออกดอกบนต้น” ในทางธุรกิจ

ถ้าเราเป็นองค์กรขนาดเล็ก ควรใช้ปัจจัยภายนอกที่จะทำให้เราสามารถสร้างสถานการณ์หลอกลวงคู่แข่ง ทำแสร้งดูเหมือนว่าเรามีพลังเข้มแข็งมาก คู่แข่งจะรู้สึกลังเลและกลัวจนไม่กล้าผลีผลามเข้าตี ประเด็นสำคัญที่สุดของกลยุทธ์ “ออกดอกบนต้น” คือจะทำอย่างไรจึงจะสร้างภาพลวงได้สำเร็จ และใช้มันให้เกิดข้อได้เปรียบกับฝ่ายเรา เป้าหมายสูงสุดคือ ดึงดูดผู้บริโภคเข้าหาผลิตภัณฑ์ให้ได้มากที่สุด ซึ่งจะสร้างยอดขายของเราให้สูงขึ้นนั่นเอง

ตัวอย่างความสำเร็จจาก Adidas

เริ่มจากสองพี่น้องตระกูล Adidas ค้นพบวิธีการใหม่ในการทำรองเท้าขณะทำงานอยู่ในโรงซักรีดเมื่อ 70 กว่าปีที่แล้ว พวกเขาทั้งสองเน้นเรื่องคุณภาพและคิดออกแบบดีไซน์ใหม่ๆ ตลอดเวลา แม้กระทั่งการวัดขนาดเท้าก็ต้องวัดอย่างแม่นยำ ตัดเย็บตามความต้องการของลูกค้า ทำให้ธุรกิจเติบโตขึ้นมีโรงงงานผลิตรองเท้าเป็นของตนเอง

จุดเปลี่ยนของ Adidas อยู่ตรงนี้ ก่อนการแข่งขันกีฬาโอลิปิกในปี 1936 พี่น้อง Adidas ได้คิดทำรองเท้าแบบมีปุ่มด้านล่างใต้พื้นรองเท้าสำหรับนักวิ่งกรีฑา จากนั้นได้มอบให้กับนักวิ่งชาวอเมริกันชื่อดังในตอนนั้น Jesse Owens

โอเวนชนะการแข่งขันคว้าไปทั้งหมด 4 เหรียญทองในกีฬาโอลิมปิกครั้งนั้น ทำให้รองเท้าของ Adidas มีชื่อเสียงกึกก้องไปทั่วโลกเพียงชั่วข้ามคืน ตั้งแต่นั้นมา Adidas จึงใช้นักกีฬาเป็นเครื่องส่งเสริมแบรนด์สินค้าของตนมาในตลอด นั่นคือเหตุผลว่าทำไม Adidas จึงเติบโตมาได้จากร้านเล็กๆ เป็นบริษัทที่มีบริษัทลูก 40 แห่งทั่วโลก ผลิตรองเท้าฟุตบอลได้ปีละกว่า 25,000 คู่ ทั้งหมดเนื่องจากใช้บุคคลชื่อดังช่วยสนับสนุนสินค้าของเขานั่นเอง