Twitter อีกหนึ่งช่องทางโซเชียลมีเดียที่เป็นที่นิยมในประเทศไทย เพราะเป็นแพลตฟอร์มที่สามารถเข้าถึงได้ง่าย และยังเป็นแหล่งติดตามข่าวสารแบบเรียลไทม์ รวมถึงในบางครั้งก็เป็นแหล่งกำเนิดของคอนเทนต์ไวรัลต่าง ๆ วันนี้เราจึงอยากพาทุกคนไปทำความรู้จักกับช่องทางนี้ให้มากขึ้นกันค่ะ
ทำความรู้จักกับ Twitter
Twitter (ทวิตเตอร์) ถือได้ว่าเป็นแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่คุ้นหูและคุ้นตากันเป็นอย่างดี เป็นแพลตฟอร์มที่ผู้ใช้งานสามารถโพสต์เนื้อหาสั้น ๆ กระชับ เพื่อแสดงความคิดเห็นของตัวเองลงในหน้าฟีด หลายคนอาจเรียกกันว่าเป็นการทวีตข้อความ (Tweet) ซึ่งการทวีตข้อความนี้ก็เปรียบเสมือน “เสียงร้องของนก” ตามโลโก้รูปนก Larry ของทวิตเตอร์ และไม่ใช่เพียงแค่ทวีตข้อความได้เท่านั้น แต่คุณยังสามารถโพสต์รูปภาพ หรือวิดีโอสั้นได้ด้วย
สำหรับประเทศไทย ทวิตเตอร์เปรียบเสมือนแพลตฟอร์มที่ไม่เคยหลับใหล เพราะมีความเคลื่อนไหวตลอดเวลาจากผู้ใช้งาน ทำให้หลาย ๆ สถานการณ์เราสามารถอัพเดทข่าวสารได้ทันท่วงทีจากช่องทางนี้ และการใช้ Hashtag (#) ก็เป็นสิ่งที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้งานสามารถดูข่าวสารได้ตามแท็กต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นได้ง่ายขึ้นด้วย ที่สำคัญบนทวิตเตอร์ ก็เป็นช่องทางที่สร้างกระแสไวรัลให้ทุกคนได้ร่วมพูดถึงกันอยู่บ่อย ๆ อย่างล่าสุดกับคอนเทนต์ “รักไม่ใช่ดวงดาว เมื่อพราวแสง” ซึ่งเชื่อว่าทุกคนก็คงจะได้ยินหรือได้เห็นกันผ่านตามาบ้างใช่ไหมล่ะค่ะ
เพิ่มโอกาสเข้าถึงลูกค้าและสร้างยอดขายผ่าน Twitter
อย่างที่ได้ทำความรู้จักกับทวิตเตอร์กันไป ก็คงจะเห็นแล้วว่า ช่องทางนี้เป็นช่องทางที่เราสามารถใช้เข้าถึงลูกค้าได้ดีมาก ๆ อีกช่องทางหนึ่งเลย ยิ่งถ้าเราเลือกเล่นคอนเทนต์ที่เป็นกระแส และคอนเทนต์ของเราโดนใจเหล่าผู้ใช้งาน ก็ยิ่งมีโอกาสทำให้ผู้คนรู้จักร้านค้าของเราได้ง่ายขึ้น
แต่การจะเล่นกับกระแสที่มาไวไปไวนั้น ก็ต้องระมัดระวังเรื่องของการสูญเสียตัวตนของแบรนด์ด้วยนะคะ เพราะหากเราตามทุกกระแส เพียงเพราะอยากดึงดูดความสนใจ จนขัดกับภาพลักษณ์ของร้านค้า ก็อาจสร้างผลลัพธ์ที่ไม่ดีให้กับร้านค้าของเราได้
เพราะการแสดงตัวตนในช่องทางทวิตเตอร์นั้น ควรมีความจริงใจที่สอดคล้องกับความเป็นตัวตนของแบรนด์ นั่นจึงจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุดค่ะ!
พออ่านมาถึงตรงนี้ หลายคนก็คงจะเกิดคำถามกันแล้วว่า ถ้าหากต้องการเข้าถึงลูกค้าในช่องทางนี้ ร้านค้าควรต้องวางแผนหรือทำการตลาดอย่างไรบ้าง แน่นอนว่าเราก็ได้หาข้อมูลมาให้คุณแล้ว ซึ่งมีดังนี้ค่ะ
1. ตั้งเป้าหมายว่าต้องการอะไรจากช่องทางนี้
ก่อนก้าวลงสู่สนาม เราควรตั้งเป้าหมายก่อนว่า เราต้องการอะไรจากสนามนี้ เช่น ต้องการทำให้ร้านค้าเป็นที่รู้จัก หรือต้องการสร้างยอดขายให้เพิ่มมากขึ้น เป็นต้น เพื่อให้เรารู้ถึงแนวทางที่จะสร้างคอนเทนต์ให้สามารถขับเคลื่อนไปยังเป้าหมายที่ต้องการได้
2. สร้างบัญชีธุรกิจเพื่อใช้งาน
การสร้างบัญชีธุรกิจจะช่วยทำให้ร้านค้าของเราดูมีความน่าเชื่อถือมากขึ้น และการคงไว้ซึ่งอัตลักษณ์ของแบรนด์ (Corporate Identity: IC) จะทำให้ลูกค้าจดจำเราได้ง่ายขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการใช้โทนสีของภาพคอนเทนต์, การมีสโลแกนสินค้า/ร้านค้า หรือการแสดงโลโก้ในโปรไฟล์
3. ทำความเข้าใจ Twitter Voice ของตัวเอง
สิ่งที่เราจะสื่อสารไปในทวิตเตอร์ เราอาจเรียกว่า “Twitter Voice” ซึ่งเราควรกำหนดแนวทางให้ชัดเจนว่า เราจะสื่อสารออกไปในรูปแบบใด และที่สำคัญก็คือ สิ่งที่เราจะสื่อสารออกไปนั้น ควรเป็นสิ่งที่สดใหม่, เป็นต้นฉบับ และสื่อถึงความเชี่ยวชาญด้วย
4. ใช้งาน #Hashtag
Hashtag (แฮชแท็ก) เป็นหนึ่งแนวทางที่ทำให้ผู้คนที่สนใจในเรื่องที่เรากำลังพูด พบเจอเราได้ง่ายขึ้น บางแบรนด์มีการสร้างแฮชแท็กขึ้นมาใหม่ ตามแคมเปญการขายที่อยากนำเสนอ และใช้แฮชแท็กนั้นเป็นป้ายกำกับการทวีต หรือสนับสนุนให้มีการแชร์เพื่อให้คนเข้าถึงแคมเปญมากขึ้น เช่น #Lazada1111 ซึ่งหากเราเป็นร้านค้าออนไลน์เล็ก ๆ ก็สามารถเข้าไปมีส่วนร่วมในแฮชแท็กใหญ่ ๆ แบบนี้ เพื่อเพิ่มโอกาสการมองเห็นและการขายได้เช่นกัน
5. วิเคราะห์เนื้อหาที่ผู้ใช้งานชอบ
ไม่ว่าจะทำคอนเทนต์ในช่องทางไหน สิ่งหนึ่งที่ต้องไม่ลืม คือ การกลับมาวิเคราะห์ว่าลูกค้าของเราชอบคอนเทนต์แบบไหน เพื่อที่จะได้ทราบแนวทางการปรับคอนเทนต์ให้โดนใจ หรือตรงกับความต้องการของลูกค้ามากที่สุด ซึ่งบนทวิตเตอร์ก็มีข้อมูลเหล่านี้ให้ดู เพียงเข้าไปที่ Twitter > More > Creator Studio > Analytics
6. สร้างการสนทนาและเข้าร่วมพูดคุย
กลยุทธ์ของทวิตเตอร์ คือเน้นไปที่การพูดคุย ดังนั้น เราจึงต้องพยายามสร้างการสนทนาให้เกิดขึ้น ต้องให้ความสำคัญกับการตอบกลับ (Retweet) หรือควรเข้าไปมีส่วนร่วมกับบทสนทนาบนทวิตเตอร์ เพราะยิ่งเรามีส่วนร่วมมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งสร้างโอกาสให้มีผู้ติดตามเพิ่มมากขึ้นเท่านั้นนะคะ
และนี่ก็คือเรื่องราวของ Twitter ที่เรานำมาฝากทุกคนในวันนี้ หวังว่าจะทำให้ทุกคนได้รู้จักและเข้าใจการทำการตลาดในช่องทางนี้มากขึ้นนะคะ ?
แหล่งข้อมูล