ช่องทางติดต่อบนเว็บไซต์ ถือเป็นอีกหนึ่งข้อมูลสำคัญที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้ลูกค้า ติดต่อกับร้านค้าได้รวดเร็วมากขึ้น ยิ่งมีหลายช่องทาง ยิ่งเพิ่มความสะดวกให้ลูกค้าสามารถเลือกช่องทางที่ต้องการติดต่อได้ง่าย วันนี้เราจึงจะมาคุยกันถึงความสำคัญของช่องทางติดต่อบนเว็บไซต์กันค่ะ
ทำไมร้านค้าออนไลน์ ควรมีช่องทางติดต่อหลายช่องทาง?
ลองคิดง่าย ๆ ว่า หากเราเปิดเว็บไซต์ขายสินค้า และใส่ข้อมูลช่องทางติดต่อเพียงแค่ Email ช่องทางเดียว ลูกค้าที่จะสามารถติดต่อกับทางร้านได้ ก็ต้องเป็นกลุ่มคนที่มีอีเมลอยู่แล้วเท่านั้น นั่นหมายความว่า หากลูกค้าไม่มีอีเมล ก็อาจทำให้ลูกค้าไม่สอบถามข้อสงสัยเกี่ยวกับสินค้าได้ และอาจหันหน้าหนีไปซื้อสินค้าจากร้านอื่นแทน
จากตัวอย่าง จะเห็นได้ว่า ช่องทางการติดต่อ ก็เป็นเสมือนช่องทางในการรองรับลูกค้า ยิ่งมีช่องทางติดต่อเยอะ ก็เท่ากับ เราสามารถรับลูกค้าได้หลากหลายช่องทาง โอกาสในการขายสินค้าก็ย่อมเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน
และไม่ใช่แค่เรื่องของการรับลูกค้า แต่การมีช่องทางติดต่อที่หลากหลาย ยังช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับร้านค้า ว่าเป็นร้านที่มีตัวตนจริง ๆ สามารถตรวจสอบได้อีกด้วยนะคะ
แล้วช่องทางไหนบ้างล่ะ ที่เราควรมี?
จากสถิติ Thailand Digital Stat 2021 ของ We Are Social ได้ให้ข้อมูลไว้ว่า ในปีที่ผ่านมา คนไทยใช้งานโซเชียลมีเดียเฉลี่ย 2 ชั่วโมง 48 นาทีต่อวัน และที่สำคัญ เฉลี่ยแล้วคนไทยมีบัญชีโซเชียลมีเดียประมาณ คนละ 10 บัญชี!!
ลองนับง่าย ๆ จากบัญชีของเราเอง มีบัญชี Facebook 2 บัญชี, Instagram 2 บัญชี, Twitter 2 บัญชี และยังไม่นับรวม Line, Tiktok, YouTube หรืออื่น ๆ อีกนะคะ
จะเห็นได้ว่า คนไทยใช้งานโซเชียลมีเดียเยอะ ฉะนั้นนอกจากมีช่องทางการติดต่อพื้นฐานอย่าง Email หรือข้อมูลเบอร์โทรศัพท์แล้ว โซเชียลมีเดีย ก็เป็นตัวเลือกสำคัญที่ควรเพิ่มเป็นทางเลือกในการติดต่อให้ลูกค้าด้วย
เพิ่มทางเลือกในการติดต่อให้ลูกค้าบนร้านค้า LnwShop
เมื่อทราบกันแล้วว่า ช่องทางไหน คือช่องทางการติดต่อที่ร้านค้าควรจะมีบ้าง คราวนี้ เรามาดูกันดีกว่าค่ะ ว่าจะสามารถเพิ่มข้อมูลช่องทางต่าง ๆ บนเว็บไซต์ร้านค้าของเราได้อย่างไร
[คลิกดูตัวอย่างเว็บไซต์ www.demo29.lnwshop.com]
สำหรับร้านค้าที่ใช้งานระบบจัดการร้านค้าออนไลน์ LnwShop สามารถเข้าไปเพิ่มข้อมูลการติดต่อร้านค้าได้ที่หลังร้าน โดยไปที่ เข้าสู่หลังร้าน > เมนู ร้านค้า > ข้อมูลการติดต่อ
ในส่วนนี้ระบบจะให้ใส่ข้อมูล Email และเบอร์โทรศัพท์ รวมถึงมีปุ่มเปิดการแสดงผลบนหน้าเว็บไซต์ ที่จะแสดงช่องทางการติดต่อต่าง ๆ ดังภาพด้านบนด้วย
และอย่างที่บอกกันไปว่า ช่องทางโซเชียลมีเดีย คือ ช่องทางที่ควรมี ร้านค้าจึงสามารถเลื่อนขึ้นไปด้านบน เพื่อใส่ข้อมูล Social Network ไม่ว่าจะเป็น Facebook Page, Twitter, Instagram, YouTube หรือ Line ได้ด้วย ซึ่งเมื่อเพิ่มข้อมูลและทำการกด บันทึก แล้ว ข้อมูลต่าง ๆ ก็จะมาแสดงที่ปุ่มติดต่อทางหน้าร้านค่ะ
ไม่พลาดทุกการติดต่อของลูกค้าด้วย Facebook Chat Plugin
และตอนนี้ LnwShop ก็ได้เพิ่มฟีเจอร์ Facebook Chat Plugin ฟีเจอร์ที่จะช่วยเพิ่มช่องทางการติดต่อให้ร้านค้าอีกหนึ่งช่องทาง ซึ่งฟีเจอร์นี้จะเป็นการเพิ่ม Chat inbox ของ Facebook มาแสดงที่หน้าเว็บไซต์ ให้ลูกค้าส่งข้อความถึง Facebook Page ของร้านได้ตลอดเวลาที่เข้ามาดูสินค้าค่ะ
โดยฟีเจอร์นี้ ร้านค้าสามารถเปิดใช้งานได้จากทางหลังร้าน LnwShop ไปที่ เข้าสู่หลังร้าน > เมนู สคริปต์ > เลือกบริการของ Facebook หรือ Script ของ Facebook > คลิก Facebook Chat Plugin > ใส่ข้อมูล Page ID > คลิก บันทึก
หรือสามารถเข้าไปอ่านวิธีติดตั้งใช้งานอย่างละเอียดได้ที่ >> บทความ Facebook Chat Plugin <<
เพียงเท่านี้ ก็สามารถเพิ่มช่องทางการติดต่อที่หน้าเว็บไซต์ ได้แล้วล่ะค่ะ
เรื่องของช่องทางติดต่อบนหน้าเว็บไซต์ ถือเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม การมีช่องทางการติดต่อที่หลากหลาย และสามารถติดต่อได้ทุกช่องทาง จะเพิ่มความน่าเชื่อถือให้ร้าน และเพิ่มโอกาสในการรับลูกค้าได้มากขึ้นค่ะ
ครั้งหน้าจะมีข้อมูลอะไรมาเล่าสู่กันฟังอีก อย่าลืมติดตามกันนะคะ :)
ที่มาของข้อมูล
