เพราะ COVID-19 ทำให้ธุรกิจส่งออกผ้าเช็คหน้าต้องหยุดชะงัก ร้าน Hanky House ต้องมองหาหนทางที่จะประคองธุรกิจให้ดำเนินต่อไปได้ และ ช่องทางออนไลน์ ก็คือเครื่องมือสำคัญที่ทางร้านเลือกใช้ พบกับเรื่องราวของร้าน Hanky House ที่จะมาเล่าถึงประสบการณ์ฝ่าวิกฤตโรคระบาดในบทความสัมภาษณ์ร้านค้า The Highlight Shop จะเป็นอย่างไรบ้าง เราไปติดตามกันเลย
Hanky House แบรนด์ของใช้และของแต่งบ้าน
Hanky House ธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายของใช้และของแต่งบ้านที่เข้าสู่ตลาดออนไลน์ในช่วงวิกฤตโรคระบาด ด้วยการใส่ใจและให้ความสำคัญกับสินค้า ทำให้ Hanky House กลายเป็นร้านค้าออนไลน์ที่มีกระแสตอบรับที่ดีจากลูกค้าทั่วประเทศ
ซึ่งปัจจุบันทางร้านก็มีหลากหลายช่องทางบนออนไลน์ ทั้งเว็บไซต์ www.hankyhouse.com, Marketplace อย่าง Lazada, Shopee, JD.com และช่องทางโซเชียลอย่าง Facebook, Instagram
จากการธุรกิจส่งออกสู่การขายภายในประเทศ ทางร้านมีวิธีปรับตัวอย่างไร
ร้าน Hanky House เดิมเป็นธุรกิจที่ผลิตและส่งออกผ้าเช็ดหน้าไปขายต่างประเทศ แต่เมื่อเกิดวิกฤตโรคระบาด ก็ทำให้ไม่สามารถส่งออกสินค้าได้ จนธุรกิจต้องหยุดชะงัก
คุณตูน เจ้าของร้าน จึงมองหาหนทางที่จะเข้ามาช่วยแก้ปัญหาในส่วนนี้ โดยคุณตูน เล่าให้เราฟังว่า… ช่วงแรกที่ส่งออกไม่ได้ รายได้แทบจะเป็นศูนย์ เราจึงมานั่งคิดว่า ในเมื่อก็มีสินค้าอยู่ในมือ ทำไมถึงไม่ลองขายในประเทศดูบ้าง ก็เลยตัดสินใจทำแบรนด์นี้ลองขายในประเทศดูครับ
โดยช่องทางแรกที่ทางร้านเลือกใช้เพื่อเข้าถึงลูกค้าบนออนไลน์คือ “เว็บไซต์” ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ทางร้านสามารถลงข้อมูลสินค้า รายละเอียด รูปภาพได้อย่างครบถ้วน และง่ายต่อการเข้าถึงเมื่อลูกค้าค้นหา ซึ่งในช่วงแรก ทางร้านก็มีการทำ SEO ปรับแต่งเนื้อหาในเว็บ เพื่อให้ติดอันดับการค้นหาบน Google ร่วมด้วย
แต่ก็ต้องยอมรับจริง ๆ ว่า ผ้าเช็ดหน้า อาจไม่ใช่สินค้าในกระแสและไม่ได้เป็นที่นิยมมากนัก ทางร้านจึงวิเคราะห์ความต้องการของลูกค้ากับความสามารถของธุรกิจว่า จะผลิตอะไรเพิ่มขึ้นมา เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าได้อีกบ้าง จึงได้เริ่มเพิ่มไลน์สินค้าเกี่ยวกับของใช้ภายในบ้านขึ้นมา ไม่ว่าจะเป็นผ้าเช็ดตัว ผ้าขนหนู หรือผ้าห่ม เพื่อรองรับกับความสนใจของลูกค้าที่จะมีต่อร้าน Hanky House
เติบโตมากขึ้น เมื่อขยายโอกาสด้วยการเข้าถึงลูกค้าทุกช่องทาง
แม้จะเพิ่มโอกาสขายด้วยการขยายไลน์สินค้าให้มากขึ้น แต่นั่นก็ยังไม่ใช่จุดจบการพัฒนาของร้าน Hanky House เพราะทางร้านเล็งเห็นว่า การขายช่องทางเดียว ไม่เพียงพอต่อการเข้าแข่งขันในตลาดออนไลน์
ทางร้านจึงได้ตัดสินใจเพิ่มช่องทางขาย เปิดร้านบน Marketplace ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น Lazada, Shopee หรือ JD.com รวมถึงไม่ละทิ้งช่องทางโซเชียลมีเดียอย่าง Facebook และ Instagram ด้วย ทำให้ทางร้านมีออเดอร์เข้ามาจากหลากหลายช่องทาง เพิ่มรายได้ให้อย่างน่าพอใจ
แต่การขายหลายช่องทาง ก็นำมาซึ่งปัญหาการจัดการที่ยุ่งยาก!
คุณตูน ได้แชร์ปัญหาที่ได้พบเจอจากการขายหลายช่องทางให้เราฟังว่า …เพราะเราไม่มีประสบการณ์ในการขายออนไลน์มาก่อน พอมาขายหลาย ๆ ช่องทาง มีออเดอร์เข้ามา ช่วงแรกเราก็ทำเองไหว เข้าไปไล่ปรับสต๊อกทุกช่องทางได้เอง ไม่ยากอะไร แต่พอออเดอร์เริ่มเยอะขึ้นเรื่อย ๆ มันจัดการไม่ทัน จนมีรอบนึงที่ต้องไล่โทรไปขอโทษลูกค้า เพราะสินค้าหมดสต๊อก เลยรู้สึกว่า ปัญหานี้เป็นปัญหาที่เราต้องเร่งแก้ไข
จึงเป็นที่มาให้ทางร้านเลือกมองหาระบบเข้ามาช่วยจัดการช่องทางการขาย ให้ร้านค้าสามารถจัดการข้อมูลสินค้า ออเดอร์ และสต๊อกจากทุกช่องทางได้ง่ายในที่เดียว ซึ่งข้อดีของการนำระบบเข้ามาร่วมทำงานด้วย คือ
- ทำให้ร้านค้ารู้ว่าตอนนี้มีสินค้าในคลังทั้งหมดเท่าไหร่
- ทำให้สามารถเตรียมวางแผนการขายได้ล่วงหน้า
- ลดปัญหาออเดอร์ซ้ำซ้อนเมื่อลูกค้าสั่งของเข้ามาจากหลายช่องทาง
- มีเวลาเยอะขึ้นในการจัดการงานส่วนอื่น ๆ
ซึ่งหากใครเจอปัญหาเดียวกันก็สามารถนำแนวทางแก้ปัญหานี้ไปปรับใช้กับร้านค้าของตัวเองได้
สุดท้ายกับคำแนะนำที่คุณตูนได้ฝากเอาไว้ให้เพื่อนร้านค้าออนไลน์ ที่กำลังมองหาโอกาสในการเพิ่มยอดขาย
- ต้องคิดถึงลูกค้าให้มาก – มองความต้องการในมุมมองของลูกค้า ว่าเขาต้องการอะไร ถามและฟังให้เยอะ
- นำคำติชม มาพัฒนาต่อยอดเพื่อสร้างความประทับใจให้ลูกค้า เพราะเราอาจได้รับการรีวิวที่ดีจากลูกค้า ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการช่วยโปรโมทร้านค้าของเรา
- เข้าถึงลูกค้าหลายช่องทาง เพื่อเพิ่มโอกาสขาย เพราะลูกค้าของเรากระจายอยู่ทุกที่
- หาตัวช่วยเข้ามาจัดการระบบการขาย เพื่อลดปัญหาความผิดพลาดจากการจัดการด้วยกำลังคน
- ใส่คุณค่าให้กับสินค้าให้ได้มากที่สุด เน้นที่ตัวสินค้าคุณภาพต้องดี ราคาจับต้องได้ นำเสนอผ่านรูปภาพสวย ๆ และให้รายละเอียดที่ครบถ้วน แม้จะเป็นสินค้าธรรมดาก็ตาม
และนี่ก็เป็นเรื่องราวของร้าน Hanky House ร้านค้า The Highlight Shop ประจำเดือนพฤศจิกายน 2565 ที่เรานำมาฝากกันในวันนี้ หวังว่าทุกคนคงจะได้รับแนวทางจากประสบการณ์ดี ๆ ของคุณตูน นำไปปรับใช้กับร้านค้าของตัวเองกันนะคะ
ทั้งนี้ ทีมงานต้องขอขอบคุณ คุณตูน เจ้าของร้าน Hanky House มากเลยนะคะ ที่ให้เกียรติมาร่วมให้สัมภาษณ์กับเราในครั้งนี้ค่ะ
ช่องทางติดต่อร้าน Hanky House
- เว็บไซต์ – www.hankyhouse.com
- Facebook – www.facebook.com/hankyhouse
- Instagram – www.instagram.com/hankyhouse
- Line – @hankyhouse
- Tel. 098-786-4264