มองไปทางไหน ก็มีแต่คนขายของออนไลนเต็มไปหมด แล้วแบบนี้เราจะขายแข่งกับคนอื่นได้ยังไง หรือถ้าอยากขายของออนไลน์ให้ปัง ต้องทำอย่างไร เรามี 3 เคล็ดลับการขายของออนไลน์ให้ปังมาฝากกันค่ะ
1. จะขายของออนไลน์ให้ปัง ต้องมีสินค้าเยอะ
การที่เราสามารถลงขายสินค้าปริมาณมากได้ ถือเป็นข้อดีข้อหนึ่งของการขายของออนไลน์ จนเกิดเป็นทฤษฎีที่เรียกว่า Longtail Marketing ที่ว่า ยอดขายของสินค้าที่ขายไม่ดีหลาย ๆ ตัวมารวมกัน มีโอกาสมากกว่าสินค้าขายดีก็เป็นได้ ซึ่งเราไม่สามารถลงสินค้าปริมาณมาก ๆ ในหน้าร้านจริงได้ เพราะพื้นที่มีจำกัด แต่การขายออนไลน์ทำลายข้อจำกัดนี้ออกกไปได้หมด เพราะคุณสามารถที่จะลงขายสินค้ากี่ชิ้นก็ได้ในโลกออนไลน์ ที่สำคัญกว่านั้น คุณยังสามารถทำโฆษณาสินค้าทุกชิ้นแยกกันได้ ทำให้เพิ่มโอกาสในการเข้าถึงสินค้าของคุณได้ทุกชิ้น และเพิ่มยอดขายได้มากยิ่งขึ้น
2. จะขายของออนไลน์ให้ปัง ต้องมีหลากหลายช่องทาง
ลูกค้าบนโลกออนไลน์ ไม่ได้อยู่ในที่เดียว ลูกค้าบางคนชอบช้อปใน Social Media เพราะอยากคุยกับเจ้าของร้านก่อน ลูกค้าบางคนชอบเปิดดูสินค้าเรื่อย ๆ ใน Marketplace และลูกค้าบางคนก็ชอบค้นหาข้อมูลสินค้าบน Search Engine และซื้อผ่านเว็บไซต์ ดังนั้นหากเรามีช่องทางการขาย ช่องทางใดช่องทางหนึ่งเพียงช่องทางเดียว ถึงแม้ว่ายอดขายอาจจะสูง แต่คุณก็จะเสียโอกาสในการเข้าถึงลูกค้าคนอื่น ๆ ที่อาจจะดันให้ยอดขายของคุณสูงขึ้นไปอีกได้เช่นกัน
3. จะขายออนไลน์ให้ปัง เจ้าของร้านต้องจัดการเอง
แค่อ่านชื่อหัวข้อนี้ เชื่อว่าเจ้าของร้านค้าออนไลน์หลาย ๆ คน ก็ต้องถอนหายใจกันเฮือกใหญ่ เพราะขั้นตอนในการขายออนไลน์นั้นมีเยอะซะเหลือเกิน ไหนจะต้องคุยกับลูกค้า ไหนจะต้องตัดสต็อก แพ็คของ ฯลฯ แต่อันที่จริง เราไม่ได้หมายความว่าคุณต้องทำทุกอย่างด้วยตนเองค่ะ เพียงแต่คุณจะต้องดูแล และบริหารจัดการทุกอย่าง รู้ข้อมูลทุกอย่างของร้านให้ได้มากที่สุด เพื่อที่จะได้เข้าใจธุรกิจของตนเองให้มากที่สุด และนำสิ่งที่ได้เรียนรู้มาพัฒนาร้านค้าของคุณต่อไปได้นั่นเอง
และทั้งหมดนี้ก็คือ 3 ข้อที่จะช่วยให้คุณขายของออนไลน์ได้ปังขึ้นกว่าเดิม แต่ถ้าใครที่อ่านแล้วรู้สึกว่าเป็นเรื่องยุ่งยาก เหมือนจะเกินกำลังของเราก็ไม่ต้องกังวลไปค่ะ เพราะ LnwShop มีเครื่องมือที่จะช่วยให้คุณบริหารจัดการร้านค้าออนไลน์ของคุณให้ปังโดยที่ลดขั้นตอน ลดความยุ่งยาก และลดเวลาในการทำงานให้คุณได้
LnwShop ช่วยคุณเชื่อมทุกช่องทางการขาย จัดการง่ายในที่เดียว
เราให้คุณ ขายได้ทุกช่องทางที่คุณต้องการ จัดการได้ใน LnwShop ที่เดียว โดยการเชื่อมต่อกับระบบของ LnwShop จะแบ่งออกเป็น 2 รูปแบบคือ 1. การเชื่อมต่อไปยัง Platform ที่มีระบบ Shopping Cart และ 2. Social Platform (ขายผ่านแชท) และมีรายละเอียดของการเชื่อมต่อแต่ละแบบดังนี้
การเชื่อมต่อไปยัง Platform ที่มีระบบ Shopping Cart
การเชื่อมต่อในรูปแบบนี้จะเชื่อมต่อทั้ง ข้อมูลสินค้า และ สต็อกสินค้า ทำให้ร้านค้าออนไลน์สามารถลงข้อมูลสินค้าที่ LnwShop ที่เดียว แล้วเชื่อมโยงข้อมูลไปยังช่องทางการขายอื่น ๆ ได้ และหากมีการสั่งซื้อในช่องทางการขายใด ๆ ก็ตาม ระบบจะทำการ sync ข้อมูลตัดสต็อกไปในทุกช่องทางขาย เพื่อให้สต็อกของทุกช่องทางอัพเดทเป็นจำนวนที่เท่ากัน สำหรับ Platform ที่คุณสามารถเชื่อมต่อในรูปแบบนี้ได้จะมีทั้งสิ้น 10 ช่องทางได้แก่ 1. Lazada 2. Shopee 3. Google Shopping 4. Facebook Shop 5. ร้านค้าออนไลน์เทพช็อป 6. LnwMall 7. Thaibookfair.com 8. Startmarket.th 9. Priceza และ 10. Mobile POS
Social Platform (ขายผ่านแชท)
สำหรับการขายผ่านแชท ระบบของ LnwShop จะไม่ได้มีการดึงข้อมูลสินค้าไปแสดงผลในแชท แต่เจ้าของร้านค้าสามารถเข้ามาในระบบของ LnwShop และสร้าง “บิลออนไลน์” เพื่อไปให้ลูกค้าได้สั่งซื้อสินค้า ซึ่งการสร้างบิลออนไลน์นี้จะเป็นการตัดสต็อกในคลังสินค้าของ LnwShop อัตโนมัติ และคุณยังสามารถสร้างบิลออนไลน์ไปใช้ได้กับทุก Chat Platform ไม่ว่าจะเป็น Messenger, Line, IG หรือ Twitter ทำให้ไม่ว่าคุณจะขายผ่านระบบแชทใด ๆ ก็สามารถรวมข้อมูลไว้ได้ในระบบของ LnwShop และหากคุณมีการใช้การเชื่อมต่อไปยัง Platform ที่มีระบบ Shopping Cart ด้วย เมื่อคุณสร้างบิลออนไลน์เพื่อตัดสต็อกสินค้า สต็อกสินค้าใน Platform ที่มีระบบ Shopping Cart ทีุ่คณเชื่อมต่อไว้ก็จะถูกตัดสต็อกเช่นกันค่ะ
สำหรับผู้ขายคนไหนที่อยากได้ข้อมูลระบบจัดการช่องทางการขายของ LnwShop ก็สามารถคลิกไปดูได้เลยค่ะ