ปฏิเสธไม่ได้ว่าการขายของออนไลน์ในทุกวันนี้มีคู่แข่งอยู่เต็มไปหมด แข่งกับร้านค้าออนไลน์ด้วยกันยังไม่พอ ยังต้องแข่งกับ Marketplace รายใหญ่อีก การแข่งขันมากขนาดนี้ แล้วจะสู้ยังไงให้ขายได้ดี! วันนี้เรามีเคล็ดลับวิชา ที่จะช่วยให้คุณสร้างเนื้อหาสินค้า เพื่อให้โดดเด่น เป็นที่สนใจ และเพิ่มยอดขายได้ดีมาฝากกันค่ะ
4 เคล็ดวิชาสร้างเนื้อหาสินค้ายังไงให้ขายได้ดี!
เคล็ดวิชาที่ 1: ตั้งชื่อสินค้าให้โดดเด่น และพร้อมใช้เป็น Title ในผลลัพธ์การเสริช
ทราบหรือไม่คะว่าชื่อสินค้าที่เรากรอกลงไปเวลาที่ลงสินค้าใหม่นั้น ในระบบของเทพช็อป เรามีการดึงไปแสดงผลเป็น Titile หรือชื่อหน้าของหน้าสินค้านั้น ๆ ซึ่งมีโอกาสที่เมื่อคนค้นหาข้อมูลใน Google จะได้อ่านข้อความใน Title นี้ และตัดสินใจว่าจะซื้อสินค้าของเราหรือไม่ ดังนั้นชื่อสินค้าจึงเป็นจุดที่ต้องใส่ใจเป็นอันดับแรก ๆ
แนวคิดการเขียนชื่อสินค้า
- รายละเอียดที่สำคัญชื่อสุดของสินค้า ควรใส่ไว้ให้อยู่ใน 70 ตัวอักษรแรก ของชื่อสินค้า โดยอาจจะเป็นชื่อสินค้า หรือ ยี่ห้อของสินค้า ขึ้นอยู่กับความสำคัญ
- ใช้คีย์เวิร์ด คีย์เวิร์ดจะช่วยเชื่อมโยงผลิตภัณฑ์กับการค้นหาของผู้ใช้และช่วยให้ผู้ใช้จำสิ่งที่คุณขายได้ คีย์เวิร์ดอาจรวมรายละเอียดผลิตภัณฑ์ 3 ประเภทนี้
- ชื่อผลิตภัณฑ์
- ยี่ห้อ
- รายละเอียดเฉพาะเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ เช่น “สตรีมีครรภ์” สำหรับเครื่องแต่งกายหรือ “กันน้ำ” สำหรับมาสคาร่า
- การกรอกข้อมูลในส่วนของชื่อสินค้านอกจากชื่อสินค้าแล้ว เราอาจจะใส่ข้อมูล ยี่ห้อของสินค้า, สี หรือ ขนาด เพิ่มเติม
- ชื่อสินค้าไม่ควรมีความยาวเกิน 70 ตัวอักษร (ใส่ได้สูงสุด 150 ตัวอักษร)
- ใช้คำที่เฉพาะเจาะจง ยิ่งคุณระบุชื่อให้เฉพาะเจาะจงมากเท่าใด ผู้ใช้จะยิ่งค้นหาผลิตภัณฑ์ที่ถูกต้องบนหน้า Landing Page ได้ง่ายยิ่งขึ้น
- ใช้ภาษาที่เป็นมืออาชีพและถูกต้องตามหลักไวยากรณ์ จะทำให้ร้านคุณดูเป็นมืออาชีพยิ่งขึ้น
เคล็ดวิชาที่ 2: ภาพสินค้า จุดดึงดูดใจ ที่ยังไงก็ห้ามพลาด
ภาพสินค้าเป็นอีกจุดสำคัญของการขายของออนไลน์ เป็นจุดที่ใช้ในการเรียกความสนใจ กระตุ้นความอยากซื้อ และยิ่งการซื้อของออนไลน์ ผู้ซื้อไม่มีโอกาสได้จับต้องของเอง “ภาพสินค้า” จึงยิ่งเป็นจุดสำคัญที่ร้านค้าควรให้ความสำคัญเป็นอันดับต้น ๆ ของการปรับแต่งข้อมูลสินค้าเลยทีเดียว
แนวคิดการเลือกใช้ภาพสินค้า
- ขนาดไฟล์ควรมีขนาดไม่เกิน 2 MB
- รูปภาพสินค้าควรมีขนาดอย่างน้อย 800 x 800 px.
- ภาพที่ใช้ความแสดงข้อมูลของสินค้าอย่างชัดเจน ไม่มีองค์ประกอบอื่นมาบังรายละเอียดของสินค้า
- ในภาพสินค้า ควรมีขนาดสินค้าอยู่ที่ประมาณ 75% ของภาพ และไม่ควรใช้ภาพที่มีขนาดเกิน 90% ของพื้นที่ทั้งภาพ
- ไม่ควรขยายภาพเล็กให้มีขนาดใหญ่ขึ้น เพราะจะทำให้ภาพไม่ชัดเจน และลดความน่าเชื่อถือของร้าน
เคล็ดวิชาที่ 3: รายละเอียดสินค้า เปรียบเสมือนตัวแทนพนักงานขาย ต้องพร้อมให้ข้อมูล
หากเปลี่ยนการขายออนไลน์ไปเป็นการขายที่หน้าร้าน รายละเอียดสินค้าก็เป็นได้ตั้งแต่โบชัวร์ หรือพนักงานขายที่เป็นผู้ให้ข้อมูลของสินค้าแก่ผู้ซื้อ ซึ่งหากให้ข้อมูลได้ครบถ้วน และตรงกับความต้องการของผู้ซื้อ ก็จะมีโอกาสขายได้มากขึ้นเท่านั้น
แนวคิดการเขียนรายละเอียดสินค้า
- รายละเอียดสินค้าสามารถเขียนได้มากถึง 5,000 ตัวอักษร
- ตามแนวคิดการทำ SEO รายละเอียดสินค้าควรมีจำนวน 300 – 1,000 คำ
- ข้อมูลสำคัญที่สุดในรายละเอียดสินค้า ควรอยู่ใน 150 คำแรก
- แยกหัวข้อสำคัญของรายละเอียด เช่น วิธีการใช้งาน, วัตถุดิบ ฯลฯ ไว้เป็นหัวข้อให้ชัดเจน ก่อนที่จะอธิบายข้อมูลเพิ่มเติม ช่วยทำผู้ซื้อ สามารถแสกนสายตาหารายละเอียดสำคัญที่ต้องการได้ง่าย
- ระบุลักษณะที่เกี่ยวข้องมากที่สุดและแอตทริบิวต์ที่ช่วยให้มองเห็นลักษณะของผลิตภัณฑ์ได้มากที่สุด ตัวอย่างประเภทของข้อมูล ได้แก่
- ขนาด
- วัสดุ
- ช่วงอายุที่ต้องการ
- ฟีเจอร์พิเศษ
- ข้อกำหนดทางเทคนิค
- รูปร่าง
- ลาย
- พื้นผิว
- การออกแบบ เช่น ผู้ใช้ค้นหาคำที่แสดงภาพที่เฉพาะเจาะจงมากได้อย่าง “ปากกาลูกลื่นแบบกด”
เคล็ดวิชาที่ 4: วีดีโอตัวช่วยสร้างจุดเด่นให้สินค้า
การแสดงรายละเอียดสินค้าไม่จำเป็นต้องเป็นการแสดงผลในรูปแบบของข้อความ หรือรูปภาพเพียงอย่างเดียว วีดีโอก็ช่วยดึงความสนใจได้เช่นเดียวกันนะ
แนวคิดการทำวีดีโอให้ข้อมูลสินค้า
- วีดีโอที่อยู่ในรายละเอียดของสินค้า ควรเน้นการให้ข้อมูลของสินค้า มากกว่าการโฆษณาเพื่อหวัง Awarness หรือ Viral
- วีดีโอที่ใช้ไม่ควรเกิน 3 นาที หากต้องการให้ข้อมูลในเวลาที่นาน ควรแยกเรื่องออกมาเป็นคลิปย่อย ๆ หลาย ๆ คลิปแทน
- วีดีโอไม่ควรเล่นอัตโนมัติ เพื่อไม่ให้เป็นการรบกวนผู้ซื้อจนเกินไป
และนีก็คือ 4 เคล็ดวิชาในการสร้างสรรค์เนื้อหาเพื่อการขายสินค้า เป็นยังไงกันบ้างคะ กับทั้งสี่เคล็ดวิชานี้ หากร้านค้าไหนมีแนวคิดดี ๆ เกี่ยวกับการสร้างคอนเทนต์สำหรับขายของออนไลน์ ลองมาแชร์กันดูได้นะคะ ^_^