ผ่านไปแล้วครับ กับการจัดงาน WWDC 2011 (Worldwide Developer Conference 2011) โดย Apple ที่มาคราวนี้พร้อมกับการอัพเดทซอฟต์แวร์มากมายทั้ง Mac OS X (lion), iOS5 และ iCloud สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับผู้เข้าร่วมงานมากมาย – Scott Forstall เป็นผู้นำเสนอ iOS 5 ระบบปฏิบัติการบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ iDevices เวอร์ชั่นใหม่ล่าสุดเหมือนทุกๆครั้ง โดยได้เพิ่มความสามารถเข้าไปมากมายกว่า 200 ฟีเจอร์ เช่น ระบบแจ้งเตือน – Notification Center, ส่งข้อความโดยตรง – iMessage, App สำหรับที่รวมหนังสือและนิตยสารดิจิตอล – Newsstand, ที่เตือนความจำและรายการงานที่ต้องทำ – Reminders, รวม Twitter เข้าไปใน iOS เพื่อทวีตได้ทันที และอีกมากมาย รูปภาพ วิดีโอพร้อมรายละเอียดอ่านต่อหลังเบรกเลยครับ
ช่วงแรก Scott ได้บอกถึงความนิยมของ iOS devices ทั้งหลาย ด้วยการโชว์ตัวเลขของผู้ใช้งาน iOS ทั้งหมดกว่า 200 ล้านเครื่อง แบ่งเป็น iPad 25 ล้านเครื่อง นอกนั้นเป็นของ iPhone, iPod Touch ทั้งหลาย มีการดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นจาก App Store ไปถึง 14 พันล้านครั้ง และตัวเลขเงินที่ให้กับผู้พัฒนา (developers) ทั้งหมดกว่า 2.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งไม่แปลกเลยว่าทำไม Apple ถึงกลายเป็นบริษัทด้าน IT ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก
แต่ตอนนี้ เรามาเริ่มทำความรู้จัก iOS 5 กันเลยดีกว่าครับ ว่ามีฟีเจอร์และความสามารถเด่นๆที่เพิ่มเข้ามานั้นมีอะไรกันบ้าง (การทดสอบครั้งนี้เป็น iOS5 เวอร์ชั่น beta ที่สามารถดาวน์โหลดจากเว็บไซต์ Apple มาลองใช้กับ iPad2 และ iPhone4 เท่านั้น)
เริ่มต้นเปิดเครื่องขึ้นมา ไม่ว่าจะเป็น iPad, iPhone หรือ iPod Touch จะพบกับหน้าเข้าสู่ระบบด้วย Apple ID และเปิดการใช้งาน iCloud (ระบบการแชร์และบันทึกไฟล์และข้อมูลบนอินเทอร์เน็ตใหม่จาก Apple) ต่อด้วยข้อเสนอในการใช้งานบริการ Find my iPhone ซึ่งคุณไม่จำเป็นต้องเปิดการใช้งานทั้งหมดนี้โดยการ Skip ก็สามารถใช้งานได้ปกตินะครับ ^_^ หากไม่ได้เปิด Apple ก็จะเสนอให้คุณ “start using the most advanced iOS ever” เพื่อใช้งานบริการเหล่านี้ได้อีกครั้ง
iOS 5: Notification Center
Notification center ระบบแจ้งเตือนใหม่ใน iOS 5 ที่เป็นศูนย์รวมสิ่งที่คุณพลาดในการติดต่อไป ไม่ว่าจะเป็น Missed Call, Voice Mail, E-mail, Calendar , SMS, Message*, Reminders* (*รายละเอียดด้านล่าง) และจาก Application อื่นๆ โดย iOS 5 จะมีการเด้ง notification ที่เพิ่งเข้ามาใหม่ที่ด้านบนของหน้าจอ ที่สามารถเข้าไปยัง Application นั้นได้โดยตรง และจะหมุนหลบไปหากคุณไม่กดตอบรับการแจ้งเตือนนั้นๆ ดูแล้วคล้ายๆกับ MobileNotifier (Jailbreak app) อยู่มากทีเดียว
คุณสามารถเข้าไปดู Notification ทั้งหมดในเครื่อง iOS 5 ของคุณได้ โดยการ swipe หรือ รูดนิ้วจากด้านบนลงมา (หากใครใช้ Android คงจะรู้สึกว่า Apple ลอกมาแน่ๆ – -‘) จะพบกับ Notification center ให้เราสามารถเลือกแท็บรายการเพื่อไปยัง app ได้ทันที นอกจากนั้นยังมี Notification ในหน้า Lock Screen อีกด้วย ซึ่งคุณจะสามารถ swipe รายการที่ต้องการ เพื่อปลดล็อคและเข้าสู่ App นั้นๆได้เช่นกัน โดยที่รายการที่จะขึ้นในหน้า lock screen เฉพาะสิ่งที่คุณพลาดไปในช่วงเวลาที่ล็อคเครื่องเท่านั้น รายการที่เข้ามาขณะคุณใช้งานอยู่จะไม่รวมในนั้น
นอกจากนั้นยังแสดง สภาพภูมิอากาศ (Weather) และ ตัวเลขหุ้น (Stock) ในหน้า notification center ด้วย
iOS 5: iMessage
iOS 5 ได้เพิ่มสุดยอดฟีเจอร์ที่หลายๆคนรอคอย นั่นคือการส่งข้อความแบบ mobile-to-moblie เหมือนกับ BBM ของ Blackberry ที่ประสบความสำเร็จและใช้เป็นจุดขายมาโดยตลอด ซึ่ง Apple ได้เรียกชื่อบริการใหม่นี้ว่า iMessage ซึ่งจะถูกยัดรวมเข้าไปใน Message app ที่มีอยู่บน iPhone อยู่แล้ว แถมยังใส่เพิ่มเข้าไปใน iPad ด้วย (iOS 4 ของ iPad ไม่มีแอพพลิเคชั่น Message) บริการ iMessage นี้จะทำให้คุณสามารถ Chat หรือติดตามเพื่อนๆได้ตลอดเวลา แบบไม่ต้องผ่านอินเทอร์เน็ตอีกแล้ว คุณจะสามารถสังเกตเห็นความแตกต่างของข้อความจาก SMS และข้อความจาก iMessage ได้ด้วยสีของกล่องคำพูดที่เปลี่ยนไปจากเดิมสีเขียวเป็นสีน้ำเงิน
เราสามารถรู้ว่าอีกฝั่งกำลังพิมพ์ข้อความอยู่ได้ด้วย โดยจะแสดงกล่องคำพูดสีน้ำเงินขึ้นมาแบบไม่มีข้อความ นอกจากนั้นคุณยังสามารถปรับตัวเลือกที่จะส่ง Read Receipts (ส่งไปว่าเราได้อ่านข้อความของอีกฝั่งแล้ว) หรือไม่ก็ได้ ซึ่งทั้งหมดใช้งานผ่าน push notifications ทั้ง iPad และ iPhone (Notification ยังใช้ไอคอนเดียวกับ Message ทำให้อาจสับสนได้ว่า ข้อความเหล่านั้นมาจาก iMessage หรือ SMS คาดว่า Apple คงจะปรับส่วนนี้ในไม่ช้า)
iOS5: Newsstand
อีกหนึ่งสุดยอดแอพพลิเคชั่นสำหรับคนชอบอ่านข่าวหนังสือพิมพ์และนิตยสารทั้งหลาย Newsstand แอพพลิเคชั่นสำหรับ iPad ที่ให้คุณเก็บข่าวหรือแมกกาซีนที่คุณชื่นชอบไว้บน Homescreen ได้ทันที โดยมีชั้นวางแบบเดียวกันกับใน iBooks พร้อมลิงก์ “Shop” ที่ให้คุณสามารถเข้าไปเลือกซื้อนิตยสารหรือหนังสือพิมพ์ได้ผ่าน App Store อีกด้วย
iOS5: Twitter
iOS5: Reminders
iOS 5: Camera
Camera app ใน iOS 5 ได้เปลี่ยนไปจากเดิมมากจากเพียงแค่ถ่ายรูปและวิดีโอได้เพียงเท่านั้น ตอนนี้ได้เพิ่ม effect และเครื่องมือช่วยในการถ่ายรูปเข้าไปด้วย ทั้งสามารถ Lock จุดที่จะให้โฟกัสหรือค่าแสงที่วัด (exposure) ได้ การ Zoom เข้า-ออก จากที่เป็น scroll ตอนนี้สามารถถ่างนิ้วเหมือนตอนขยายรูปใน gallery ได้ นอกจากนั้นยังสามารถใช้ปุ่ม เพิ่มเสียง แทนชัตเตอร์ได้ (ฟีเจอร์นี้น่าจะมีนานแล้ว เพราะกายถ่ายรูปใน iDevice นั้นลำบากมาก เพราะต้องกดที่หน้าจอ)
ใน Camera ตัวใหม่นี้ คุณยังสามารถแก้ไขรูปที่ถ่ายไปได้ด้วย (ใน Gallery App) ทั้ง Auto-enhance (เพิ่มแสงสีอัตโนมัติ), ลด Red-eye, หมุน และตัดได้ นอกจากนั้นยังเพิ่มปุ่มลัดในการเปิดโปรแกรมถ่ายรูปได้จากหน้า Lock Sreen ทันที (ทำให้ระยะทางในการลากนิ้วเพื่อปลดล็อกสั้นลงด้วย ^_^)
iOS 5: Safari
Safari ใน iOS 5 นี้ได้เพิ่ม Tab bar แทนการเปิดหน้าทั้งหมดเรียงกันของแต่ก่อน ทำให้สะดวกในการใช้งานมากขึ้น (ใครที่ใช้ iPad จะรู้ว่าต้องลง iChromy เพราะต้องการฟีเจอร์แท็บเบราวซิ่งนี้แน่นอน) ไม่เพียงแค่นั้น คุณยังเลื่อนแท็บเพื่อจัดเรียงลำดับใหม่ได้ด้วย พร้อมกับ Cache หน้าที่ได้เปิดไว้แล้วทั้งหมด โดยไม่ต้องโหลดใหม่เมื่อกลับมาดูอีกครั้งด้วย
อีกหนึ่งฟีเจอร์ที่ทำให้ Safari บน iOS 5 ตัวนี้โดดเด่นมาก คือการตัดสิ่งที่ไม่จำเป็นบนเว็บไซต์ออกเหลือเพียงแต่ ข้อความและรูปภาพในแต่ละบทความนั้นๆ ได้ พร้อมสามารถเลือกขนาดของตัวอักษรให้เล็ก-ใหญ่ ได้อีก ซึ่งเป็นอีกหนึ่งฟีเจอร์ที่มีประโยชน์ต่อนักอ่านบล็อกอย่างมาก
iOS 5: PC-Free
ด้วยความสามารถใหม่ คุณสามารถซื้อ iPad, iPhone หรือ iPod Touch ที่อัพเดทเป็น iOS 5 แล้ว โดยไม่จำเป็นต้องมีเครื่องคอมพิวเตอร์เพื่อใช้งานอีกต่อไป คุณสามารถจัดการ Firmware, ดาวน์โหลดเกมส์ แอพพลิเคชั่น หรือซอฟท์แวร์ต่างๆจาก Apple ได้ผ่านเครื่องได้โดยตรง ซึ่งหากกังวลหรือข้อมูลหายแล้วหล่ะก็ หมดปัญหาไปได้เลยเพราะคุณสามารถแบ็คอัพข้อมูลทั้งหมดได้ผ่าน iCloud นั่นเอง
นอกจากนั้น iOS 5 ยังมีฟีเจอร์และความสามารถอีกกว่า 100 อย่าง ทั้งการแยกคีย์บอร์ดออกจากกันได้ การ Sync ข้อมูลโดยไม่ต้องใช้สายผ่าน Wi-Fi การใช้งานนิ้วที่หลากหลายขึ้น สามารถใช้นิ้ว 4 หรือ 5 นิ้ว ลากขึ้นเพื่อเปิด Multi-tasking bar หรือปัดไปทางซ้ายหรือขวา เพื่อเปลี่ยนไปยังแอพพลิเคชั่นที่ใช้งานอยู่อันถัดไป หรือการหุบนิ้วทั้งหมดเพื่อกลับสู่หน้าจอ Home-screen การเพิ่มลักษณะตัวอักษร หนา เอียง เส้นบรรทัดได้ และอีกมากมายที่คุณจะได้สัมผัสในไม่กี่เดือนข้างหน้าเท่านั้น
* Apple รับประกันจะให้ iPhone 3GS, iPhone 4 , iPad 1, iPad 2, iPod touch รุ่นที่ 3 และ 4 อัพเกรดไปเป็น iOS 5 ได้ฟรี ใครใช้รุ่นต่ำกว่านี้ก็ต้องคอตกอย่างผมไปครับ T_T ขอบคุณครับที่อ่านบทความจนถึงบรรทัดสุดท้าย ^_^ วันนี้ไปก่อนล่ะครับ สวัสดีครับชาวเทพ
ขอบคุณข้อมูลเทพๆจาก Engadget.com และ Apple.com