พาทุกคนมาทำความรู้จักกับ Subscription Marketing การตลาดที่กำลังได้รับความสนใจอย่างมากในปัจจุบัน เนื่องจากเป็นการตลาดที่เพิ่มความสะดวกสบายให้กับลูกค้าในการใช้ผลิตภัณฑ์หรือบริการในระยะยาว และยังทำให้องค์กรสามารถมีรายได้อย่างต่อเนื่อง รวมถึงยังช่วยให้รักษาฐานลูกค้าเก่าได้ง่ายขึ้นด้วย เรื่องราวของการตลาดรูปแบบนี้จะเป็นอย่างไร เราไปติดตามกันเลยค่ะ
ทำความรู้จักกับ Subscription Marketing
Subscription Marketing หรือการตลาดแบบสมัครสมาชิก คือ กลยุทธ์การตลาดที่ใช้เทคนิคการขายสินค้าหรือบริการ โดยการสมัครสมาชิกเป็นรายปีหรือรายเดือน เพื่อให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงสินค้าหรือบริการขององค์กรได้อย่างต่อเนื่องและสะดวกสบายยิ่งขึ้น
โดยองค์กรต้องค้นหาจุดเด่นที่น่าสนใจของการสมัครสมาชิก เพื่อให้สามารถตอบคำถามในใจลูกค้าได้ว่า
ทำไมเขาถึงต้องจ่ายเงินเพื่อซื้อสินค้าหรือบริการของเราในระยะยาว, แพ็คเกจสมาชิกนั้น ๆ มีราคาที่เหมาะสมกับการใช้งานหรือไม่ และรอบการเรียกเก็บเงินเหมาะสมสำหรับลูกค้าหรือเปล่า ??
ซึ่งการตลาดแบบสมัครสมาชิกนั้นให้ประโยชน์ทั้งกับฝั่งลูกค้าและองค์กร
- ฝั่งลูกค้า – มีความสะดวกในการซื้อสินค้าหรือรับบริการ โดยสามารถเลือกได้ว่าจะใช้ต่อไปยาว ๆ หรือเลือกยกเลิกบริการได้ตลอดเวลา
- ฝั่งองค์กร – มีฐานลูกค้าผู้ใช้งานให้คอยดูแลรักษา มีรายได้ที่เกิดขึ้นประจำทุกเดือน ซึ่งทำให้ธุรกิจสามารถดำเนินต่อไปได้
ข้อดีของการตลาดแบบสมัครสมาชิก
- ทำให้องค์กรมีรายได้อย่างต่อเนื่อง
- ทำให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงสินค้าหรือบริการขององค์กรได้อย่างง่ายดาย
- ฐานลูกค้าแบบสมาชิก ทำให้องค์กรสามารถบริหารจัดการลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- การเสนอส่วนลดและคุณสมบัติพิเศษสำหรับลูกค้าที่ซื้อซ้ำ ช่วยเพิ่มโอกาสมากขึ้นในการรักษาลูกค้าในระยะยาวและลูกค้าจะมีความเชื่อมั่นในองค์กรมากขึ้น
ข้อควรพิจารณาของการตลาดแบบสมัครสมาชิก
- การให้บริการลูกค้าที่มีคุณภาพและความพึงพอใจอย่างต่อเนื่องเป็นสิ่งสำคัญในการรักษาลูกค้าที่เป็นสมาชิก หากได้รับการบริการที่ไม่พึงพอใจ อาจทำให้ลูกค้าเปลี่ยนใจไปจากองค์กรได้
- การจัดการระบบและระบบการชำระเงินสำหรับการทำ Subscription Marketing อาจมีค่าใช้จ่ายสูง
- การเพิ่มผู้ใช้งานใหม่ต้องใช้เวลาและความพยายามอย่างมากที่จะให้ลูกค้าสนใจและยอมสมัครสมาชิก หากไม่มีแผนการทำงานในการเพิ่มผู้ใช้งานที่ชัดเจน การตลาดแบบสมัครสมาชิก อาจไม่เหมาะกับองค์กรของคุณ
- การตลาดแบบสมัครสมาชิก ต้องมีความสมดุลระหว่างราคาและสินค้าหรือบริการ หากราคาสูงเกินไป ผู้ซื้ออาจไม่เห็นความจำเป็นในการสมัครใช้งาน และหากราคาต่ำเกินไป อาจจะทำให้องค์กรไม่สามารถทำกำไรได้
ตัวอย่างแบรนด์ที่ทำการตลาดแบบสมัครสมาชิก
ปัจจุบัน มีหลากหลายธุรกิจที่ใช้กลยุทธ์การตลาดแบบสมัครสมาชิก เพื่อเพิ่มยอดขายและสร้างความภักดีกับลูกค้า ซึ่งตัวอย่างแบรนด์ที่เราคุ้นเคยกันก็มีดังนี้
- Adobe: บริษัทผู้ผลิตและจำหน่ายโปรแกรมกับแอปพลิเคชัน สำหรับการดีไซน์หรือการออกแบบที่ให้ผู้ใช้งานสมัครสมาชิกแบบ Subscription บน Creative Cloud เพื่อใช้งานโปรแกรมต่าง ๆ ของ Adobe พร้อมมีพื้นที่จัดเก็บผลงานบนคลาวน์ในบัญชีของตัวเอง
- Netflix: บริษัทผู้ให้บริการสตรีมมิ่งซีรีส์และหนังเอกชนที่ให้ผู้ใช้งานสมัครสมาชิกแบบ Subscription เพื่อดูหนังและซีรีส์ออนไลน์ได้ไม่จำกัด
- Spotify: บริษัทผู้ให้บริการสตรีมมิ่งเพลงและบริการพูดคุยที่ให้ผู้ใช้งานสมัครสมาชิกแบบ Subscription เพื่อใช้บริการออนไลน์ได้ไม่จำกัด
- Coway: บริษัทผู้นำด้านนวัตกรรมเครื่องกรองน้ำ และเครื่องฟอกอากาศจากเกาหลีใต้ที่ให้ผู้ใช้งานสมัครสมาชิกแบบ Subscription เพื่อซื้อผลิตภัณฑ์และรับบริการตรวจเช็คความสะอาดของผลิตภัณฑ์ทุก ๆ 2 เดือน พร้อมรับบริการพิเศษอื่น ๆ ตามเงื่อนไขการใช้งาน
5 กลยุทธ์ทำการตลาดแบบสมัครสมาชิก ที่คุณต้องลอง!
1. เอาชนะใจลูกค้าด้วยข้อเสนอสุดพิเศษ
การทดลองใช้งานฟรีและข้อเสนอแบบ Freemium เป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมในการดึงดูดลูกค้าใหม่ เพราะจะทำให้ลูกค้าได้สัมผัสกับประสบการณ์ใช้งานที่อาจจะตอบโจทย์ความต้องการ และเลือกใช้งานสินค้าหรือบริการของเราอย่างต่อเนื่อง
2. เข้าถึงกลุ่มลูกค้าผ่าน Email Marketing
คุณสามารถใช้การตลาดทางอีเมลเพื่อเข้าถึงลูกค้าใหม่ ส่งโปรโมชั่นการขาย, ข้อเสนอสุดพิเศษ หรือแจ้งให้ลูกค้าทราบเกี่ยวกับคุณสมบัติและข่าวสารล่าสุดของคุณ เพราะโดยพื้นฐานแล้วการตลาดทางอีเมล เป็นวิธีที่จะช่วยรักษาความสัมพันธ์กับลูกค้าและรักษาแบรนด์ รวมถึงผลิตภัณฑ์ของคุณให้เป็นที่หนึ่งในใจของลูกค้าได้
3. สร้างเนื้อหาบ่อย และลงอย่างสม่ำเสมอ
ไม่ว่าจะเป็นเนื้อหาเพื่อดึงดูดลูกค้าใหม่ ๆ หรือเนื้อหาที่เน้นประโยชน์ระยะยาวเกี่ยวกับสินค้า เพื่อเป็นแหล่งข้อมูลให้กับลูกค้าเก่าและใหม่ ทั้งนี้ การลงเนื้อหาไม่ได้จำกัดอยู่แค่เว็บไซต์ หรือบทความเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงช่องทางต่าง ๆ บนโซเชียลมีเดียและอีเมลด้วย
4. ทำงานร่วมกับ Influencers
ค้นหา Influencers ที่เข้ากับสินค้าหรือบริการของคุณ เพื่อสร้างพันธมิตรที่มีประโยชน์ร่วมกัน ซึ่งการทำงานร่วมกับเหล่าอินฟลูเอนเซอร์นี้ จะเอื้อประประโยชน์ให้กับคุณ ดังนี้
- สร้างความเชื่อมั่น – เพราะการรับรองจากบุคคลที่สามที่เชื่อถือได้ จะทำให้ผู้คนเชื่อถือมากกว่าแบรนด์พูดถึงสินค้าด้วยตัวเอง
- เข้าถึงคนกลุ่มใหม่ – ในที่นี่ก็คือกลุ่มคนผู้ติดตามอินฟลูเอนเซอร์คนนั้น ๆ ซึ่งจะช่วยให้องค์กรสามารถขยายกลุ่มลูกค้าได้กว้างขึ้น
5. สร้างความแตกต่างให้กับสินค้าและแบรนด์ของคุณ
เพิ่มความพิเศษในการสมัครสมาชิก ไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ตามที่ทำให้การสมัครรับข้อมูลของคุณดีกว่า หรือแตกต่างจากคู่แข่ง เพื่อให้ลูกค้าตัดสินใจมาเป็นส่วนหนึ่งกับแบรนด์ของเรา
และทั้งหมดนี้ ก็เป็นเรื่องราวของการทำการตลาดแบบสมัครสมาชิกที่เรานำมาฝากกัน เรียกได้ว่าเป็นรูปแบบการตลาดที่น่าสนใจมาก ๆ เลยทีเดียวนะคะ ครั้งหน้าเราจะมีเรื่องราวของการทำการตลาดรูปแบบไหนมาแชร์กันอีก อย่าลืมติดตามนะคะ :)
แหล่งข้อมูล: