3g

มาตามติดความเคลื่อนไหวของ 3G ใหม่บนคลื่น 2100 MHz ของ 3 ค่ายยักษ์ในประเทศไทยอย่าง ais, dtac และ truemove กัน ดูเหมือนว่าอีกไม่นานเกินรอ เราก็จะมี 3G ใหม่มาให้ใช้กันแล้วนะ! แต่ก่อนจะได้ใช้ มาดูกันดีกว่าว่าแต่ละค่ายเค้ามีอะไรเด็ดๆ ออกมาบ้าง

ais

เอไอเอส เปิดให้ลูกค้าได้เริ่มสัมผัสประสบการณ์สุดยอดเครือข่ายคุณภาพของเทคโนโลยีจาก AIS 3G ใหม่ บนคลื่น 2100 MHz  ซึ่งเป็นระบบมาตรฐานรายแรกของประเทศ ณ เอไอเอส ช็อป ทุกสาขา ก่อนเริ่มเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการต้นเดือนพฤษภาคม 2556

โดยสามารถทดลองใช้งานได้ทั้งบริการเสียงที่มีความคมชัด การเชื่อมต่อ Data  ทดสอบความเร็วของ Speed การดาวน์โหลด Content ข้อมูล รูปแบบของ Applications  หลากหลาย ตลอดจนทดลองใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่หรือ Smart Device รุ่นต่างๆ ที่รองรับ

ทั้งนี้รวมไปถึงรับคำแนะนำ การเตรียมตัวก่อนเริ่มใช้บริการ AIS 3G ใหม่ อาทิ พื้นที่ให้บริการ รูปแบบของโปรโมชั่น โดยช่วงแรกนี้คนกรุงเทพฯ และเขตปริมณฑลจะได้เริ่มใช้ก่อน และขยายออกต่างจังหวัดไปยังหัวเมืองใหญ่ต่างจังหวัด เชื่อว่าได้ใช้กันภายในปีนี้แน่นอน

โดยตอนนี้ลูกค้า เอไอเอส สามารถลงทะเบียนการใช้งาน 3G ใหม่ ได้แล้วที่ http://www.ais.co.th/eservice.html หรือ กด *988*เลขบัตรประชาชน# โทรออก แล้วรอ sms ตอบกลับ

[iframe src=”http://www.youtube.com/embed/Gxs9GttGXTY”]

dtac

ขณะเดียวกันค่ายดีแทคก็ประกาศเปิดตัวโครงข่ายรูปแบบใหม่ในชื่อว่า dtac TriNet (อ่านว่า ดีแทคไทรเน็ต) รูปแบบการให้บริการของดีแทคไทรเน็ตจะเหมือนกับกรณีของเอไอเอส 3G และทรูมูฟเอช หรือก็คือใช้โครงข่ายเดิมโรมมิ่งร่วมกับโครงข่ายใหม่ โดยหน้าที่ของแต่ละโครงข่ายจะเป็นดังนี้

  • โครงข่าย GSM 1800 MHz (สัญญาสัมปทาน กสท. โทรคมนาคม) เป็นคลื่นความถี่พื้นฐานสำหรับการโทรศัพท์ โทรติดได้ง่าย คมชัดทุกพื้นที่ และรับส่งข้อมูลอินเทอร์เน็ตปริมาณไม่สูงนักได้คล่องตัวด้วยความเร็ว EDGE
  • โครงข่าย WCDMA 850 MHz (สัญญาสัมปทาน กสท. โทรคมนาคม) เน้นให้บริการ 3G กับกลุ่มลูกค้าทั่วไปเป็นหลัก เหมาะสำหรับการใช้งานดาต้าปริมาณสูงๆ เช่น ดูวิดีโอหรือส่งไฟล์ภาพความละเอียดสูง และมีลักษณะเด่น คือ ทะลุทะลวงและแผ่รัศมีเป็นวงกว้าง จึงช่วยเพิ่มความหนาแน่นของสัญญาณภายในตัวอาคาร ปัจจุบันดีแทคเผยว่าขยายพื้นที่ให้คลอบคลุม 77 จังหวัดทั่วประเทศไทยแล้ว
  • โครงข่าย WCDMA 2100 MHz (ใบอนุญาตของ กสทช.) คลื่นความถี่ใหม่ล่าสุดที่ได้รับมาจากการประมูลใบอนุญาตที่ผ่านมา เน้นให้บริการ 3G ในพื้นที่ที่มีความต้องการในการใช้งานสูง และใช้งานร่วมกับระบบ 4G LTE ในอนาคต

 [iframe src=”http://www.youtube.com/embed/jojRDX8EmT0″]

ดังนั้นดีแทคไทรเน็ตจึงเป็นเครือข่ายอัจฉริยะเครือข่ายเดียวในประเทศที่มีคลื่นความถี่มากที่สุดถึง 3 คลื่น

คลื่น 850 MHz มีความถี่กว้าง 10 MHz, คลื่น 1800 MHz มีความถี่กว้าง 25 MHz และคลื่น 2100 MHz มีความถี่กว้าง 15 MHz ซึ่งเป็นช่วงกว้างของความถี่รวมที่เยอะที่สุดในขณะนี้ โดยอายุสัมปทานของคลื่น 1800 MHz ของดีแทคยังเหลืออีก 5 ปี (2561) สามารถทำตลาดตรงนี้ไปได้สบาย ๆ ไปอีกระยะ นอกจากนั้นยังเป็นระยะเวลาที่ยาวกว่าสัมปทานของคลื่น 900 MHz ของเอไอเอสที่กำลังจะหมดลงในปีพ.ศ. 2558 จึงทำให้เอไอเอสต้องเร่งการขยับให้ลูกค้าขึ้นไปอยู่บนคลื่น 2100 MHz ทั้งหมดให้ได้โดยเร็วที่สุด

ใครที่สนใจก็สามารถลงทะเบียนจองสิทธิ์ในการย้ายเข้ามาใช้งานโครงข่าย dtac TriNet ได้แล้วตั้งแต่วันนี้ที่ศูนย์บริการลูกค้าดีแทค

สำหรับลูกค้าดีแทคทั้งรายเดือนและเติมเงินสามารถกด *3000*เลขบัตรประชาชน#โทรออก เพื่อเป็นการขอใช้บริการคลื่น 2100 MHz ของดีแทคได้แล้วด้วย ส่วนการเปิดตัวเป็นทางการของ TriNet จากดีแทคจะเป็นช่วงต้นเดือน พ.ค. เหมือนกัน

[iframe src=”http://www.youtube.com/embed/R5JxxMDDsmc”]

 true

ส่วนด้านทรูมูฟหืดจับไม่น้อยเพราะสัมปทานคลื่น 1800 MHz กำลังจะหมดลงในเดือน ก.ย. ที่จะถึงนี้ ซึ่งทรูมูฟได้ทำการขยับขยายไปซื้อ Hutch เพื่อให้ได้คลื่นคลื่น 850 MHz มาเป็นของตัวเองตั้งแต่ปี 2554 และก็มีคลื่น 2100 MHz เข้ามาเสริมอีก ปัจจุบันยังมีลูกค้าทรูมูฟที่ยังใช้บริการคลื่น 1800 MHz เป็นหลักและยังไม่ย้ายมาใช้คลื่น 850 MHz (truemove H) คาดว่าหลังเปิดบริการคลื่น 2100 MHz ในช่วงเดือน พ.ค. ทรูมูฟคงเร่งโปรโมทนักยิ่งขึ้นเพื่อให้ลูกค้าย้ายมาใช้คลื่นใหม่ให้มากที่สุด และเมื่อถึงกลางเดือน ก.ย. นี้คงมีข่าวเกี่ยวกับคลื่น 1800 MHz ของทรูมูฟอีกแน่นอน

ช่วงนี้ก็ดูโฆษณาของ Truemove H กันไปยาวๆ ที่ออกมาเป็นชุดๆ ตอกย้ำความเป็นเบอร์หนึ่งกันสุดๆ

[iframe src=”http://www.youtube.com/embed/rSIR2vmVKic”]

มีข่าวว่า มีเพียง AIS และ Truemove ที่ส่งเอกสารไปยังกสทช.เพื่อนำเข้าอุปกรณ์กระจายสัญญาณ 3G แต่ไม่มีวี่แววของ DTAC แต่อย่างใด

อย่างไรก็ตามงานนี้ 3G เมืองไทยคงมีเรื่องสนุกอีกเยอะ การที่อินเตอร์เน็ตมีความเร็วสูงขึ้น ทั่วถึงมากขึ้น หมายความว่าเจ้าของธุรกิจออนไลน์สามารถมีโอกาสในการขายได้มากขึ้น (กำไรมากขึ้นนั่นเอง) ส่วนตอนนี้มานั่งรอดูโปรโมชั่นของแต่ละค่ายไปด้วยกันดีกว่า :)

ที่มา marketingoopsblognone108blogsiampodtechwhatwhybreathexz