instagram

Instagram เป็นแอปพลิเคชั่นการถ่ายรูปที่มีผู้ใช้สูงอันดับต้น ๆ แถมยังเป็นหนึ่งในโซเชียลเน็ตเวิร์กที่มีอิทธิพลต่อผู้ใช้งานจำนวนมาก จึงไม่น่าแปลกใจที่แบรนด์ต่าง ๆ จะหันมาใช้ Instagram เป็นช่องทางเพื่อการสื่อสารทางการตลาดกันมากขึ้น คราวนี้เราลองมาดูกันดีกว่าค่ะว่าแต่ละแบรนด์นั้นมีกลยุทธ์ไหนที่จะสร้างการตลาดบน Instagram ได้โดนใจจนสามารถกระตุ้นยอดขายให้คึกคักได้บ้าง

0_0_0_0_70_campaign-asia-content-chupachups_getlolli_scene_600x400

ที่มาของรูป

1. ใช้ภาพสร้างเรื่อง

บางครั้งภาพเพียงภาพเดียวก็ไม่สามารถบอกเล่าเรื่องราวได้ทั้งหมด ดังนั้นการเอาภาพหลาย ๆ ภาพมาปะติดปะต่อกันเป็นเรื่องราว ก็อาจทำให้ภาพของคุณดูน่าสนใจมากขึ้น ยกตัวอย่างกรณีลูกอมน่ารักขี้เล่นอย่าง Chupa Chups ที่จัดกิจกรรมน่ารักๆ ต้อนวันวันฮาโลวีนผ่านช่องทาง Instagram โดยกิจกรรมนี้มีชื่อว่า @GetLolli  เป็นการตามหาลูกอมที่ถูกลักพาตัวไปให้เจอ เพียงแค่เข้าไปที่ @GetLolli  ใน Instagram เราจะเห็นภาพต่าง ๆ จำนวน 9 ภาพ ซึ่งแต่ละภาพก็จะมีแท็กต่างซ่อนอยู่ เมื่อกดที่แท็กแล้วก็จะลิงก์ไปยังบัญชีอื่นได้ ในแต่ละภาพก็จะมีลูกศรไว้คอยนำทาง ยิ่งคลิกก็ยิ่งเจอเฉลยเป็นฉากต่าง ๆ ให้ความรู้สึกเหมือนการผจญภัย แล้วเมื่อไหร่ที่คุณหาอมยิ้มเจอ นั่นถึงจะถือว่าคุณชนะ เห็นไหมคะว่าการใช้ภาพสร้างเรื่องราวนี้นอกจากจะทำให้ดูน่าสนใจแล้ว ยังทำให้ผู้ใช้ได้รับความสนุกสนานไปกับตัวสินค้ามากขึ้นอีกด้วย

 aldo-shoe-instagram

ที่มาของภาพ

2. Hashtag เป็นเรื่องสำคัญ

อีกหนึ่งขั้นตอนที่สำคัญไม่แพ้การถ่ายภาพสวย ๆ ลง Instagram ก็คือการใส่ Hashtag ที่เกี่ยวข้องกับแบรนด์หรือกิจกรรมของคุณ นอกจาก Hashtag จะเป็นตัวช่วยในการจัดกลุ่มข้อความหรือเรื่องราว ที่มีความเหมือนกันหรือคล้ายกันแล้ว Hashtag ยังทำหน้าที่เป็นตัวที่เน้นใจความสำคัญของอีเวนท์และงานนั้น ๆ ด้วย ลองมาดูตัวอย่างจาก Aldo แบรนด์รองเท้าชื่อดังจากประเทศอิสราเอล ที่ชวนทุกคนบนท้องถนนมาร่วมสนุก โดยเริ่มจากผู้ร่วมสนุกต้องยืนบนเสื่อ welcome mat จากนั้นก็ถ่ายภาพรองเท้าของตัวเองอัพโหลดขึ้น Instagram บอกขนาดรองเท้า พร้อมติด Hashtag #ALDO ที่ภาพ เมื่อเรียบร้อยแล้วให้ตีกระดิ่ง จากนั้นก็รอเพียงแค่ 2 นาทีเท่านั้น กล่องของขวัญยักษ์ที่มีรองเท้าฟรีก็จะถูกเข็นมาส่งให้ตรงหน้า จากกิจกรรมดังกล่าว ทำให้ภาพที่ติด hashtag #ALDO ปรากฎบนโลกออนไลน์เพิ่มขึ้นมากกว่า 500 ภาพในเวลาไม่นาน แถมยังได้ใจลูกค้าที่ได้รองเท้าใหม่ไปเต็ม ๆ

 The world's first pay-by-picture restaurant opens today

ที่มาของภาพ

3. จัดกิจกรรม

ลองสร้างกิจกรรมต่างๆผ่านทาง Instagram ดูไหมคะ อาจจะให้ลูกค้าถ่ายภาพสินค้า หรือบริการของเราก็ได้ การจัดกิจกรรมแบบนี้รับรองว่าจะทำให้สินค้าของคุณเกิดการพูดถึง และบอกต่อออกไปในโลกออนไลน์อย่างแน่นอน ตัวอย่างเช่น Birds Eye บริษัทผลิตอาหารแช่แข็งชื่อดัง ได้เปิด “The Picture House” ภัตตาคารชั่วคราวในกรุงลอนดอน ที่รับชำระค่าอาหารจากการถ่ายภาพแล้วอัพลง Instagram แทนการจ่ายด้วยเงินสดหรือบัตรเครดิต เพื่อโปรโมทเมนูอาหารแช่แข็งชุดใหม่ของบริษัท ให้เป็นที่รู้จัก และแน่นอนว่าแคมเปญดังกล่าวได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี เพราะมีการบอกต่อและพูดถึงในโลกออนไลน์เป็นวงกว้าง

4.เปลี่ยน Instagram ให้เป็น Catalog

ใช้ประโยชน์จากแอปพลิเคชั่นการถ่ายรูปสุดฮิตอย่าง Instagram มาเป็น Catalog ให้ลูกค้าเลือกซะเลย อย่างกรณีของ ikea ที่ใช้หน้าแรกที่แบ่งออกเป็น 6 หมวดใหญ่ได้แก่ BENCHES, TABLES, STORAGE, LIGHT, TEXTILES และ IDEAS ใครสนใจสินค้าประเภทไหน หมวดอะไรก็สามารถกดเลือกที่รูปนั้นได้ทันที  แล้วเมื่อเรากดดูรายชื่อ Tag ของภาพ เราก็ สามารถกดเข้าไปเพื่อดูรายละเอียด หรือภาพสินค้าในมุมอื่น ๆ ได้ ถ้าจะย้อนไปหน้าที่ผ่านมาก็แค่กดปุ่มลูกศรย้อนกลับหรือสไลด์นิ้วไปทางขวา 1 ทีก็จะเป็นการย้อนกลับไปยังหน้าก่อนหน้านี้แล้ว เป็นยังไงคะ เจ๋งใช่ไหมล่ะ

 cats

ที่มาของภาพ

5. เชื่อมโยงเข้าสู่ network อื่น

การที่เราสามารถเชื่อมโยงกิจกรรมใน Instagram เข้ากับโซเชียลเน็ตเวิร์กอื่น ๆ เช่น Facebook, Twitter หรือ Foursquare จะทำให้เราสามารถเพิ่มประสิทธิภาพของการสื่อสารได้กว้างขึ้น ยกตัวอย่าง แบรนด์ H&M ที่อยากจัดกิจกรรมแจกบัตร VIP งานเปิดตัวคอลเล็กชั่นใหม่ ก็เลยจัดแคมเปญ “H&M Bangkok Style” ให้คนส่งรูปผ่าน Instagram โดยใส่แท็ก #HMBANGKOKSTYLE หลังจากนั้นภาพก็จะถูกนำมาแสดงในแกลอรี่ Facebook App ทันที ดู ๆ ไปแล้วแคมเปญนี้อาจจะไม่ได้ดูน่าสนใจอะไร แต่การใช้ Social Network 2 ตัวมาขับเคลื่อนแคมเปญ ทั้ง Instagram และ Facebook มาใช้ร่วมกันนั้น สามารถเพิ่มจำนวนคนรับรู้ได้มากกว่าการใช้ Instagram อย่างเดียว อย่างแน่นอน

อ้อ แถมท้ายอีกนิด LnwShop ขอแนะนำว่าให้ใช้ Username ด้วยชื่อสินค้าหรือชื่อแบรนด์ของคุณ แล้ว Instagram จะไม่เป็นเพียงแค่กระแสอีกต่อไป แต่มันกลายเป็นอีกตัวช่วยหนึ่งที่ทำให้สินค้าของคุณเป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น ถ้ารู้แล้วจะรอช้าอยู่ทำไม ไปเริ่มต้นทำการตลาดบน Instagram กันดีกว่าค่ะ

Leave a Reply