วันนี้…วันที่เราหลายล้านคนในไทยเล่นเน็ตแบบบุฟเฟต์ หรือเน็ตตามเวลา ที่จะเปิดจะปิดเน็ตบนมือถือเมื่อไหร่ก็ได้ ซึ่งรายจ่ายของค่าเน็ตวันนี้กลายเป็นรายจ่ายที่สูงกว่าค่าโทร และเป็นรายได้หลักของบริษัทมือถือด้วย
แต่ในอีกซีกหนึ่งของโลก ยังมีคน 2 ใน 3 ของมวลมนุษย์ที่อาศัยบนโลกนี้และไม่สามารถที่จะเข้าถึงอินเตอร์เน็ตได้ ด้วยเหตุผลตั้งแต่โครงสร้างพื้นฐานเข้าไปไม่ถึง และอัตราค่าใช้บริการแพงเกินไป
ด้วยเหตุนี้ Facebook จึงเป็นโต้โผในการรวมสรรพกำลังจากบริษัทเทคโนโลยีใหญ่ๆ ระดับโลกไม่ว่าจะเป็น Facebook, Ericsson, MediaTek, Nokia, Opera, Qualcomm, Samsung เพื่อทำโครงการ internet.org การทำโครงสร้างพื้นฐานของโทรคมนาคมให้เชื่อมโลกทั้งใบเข้าด้วยกันด้วยอินเตอร์เน็ตฟรีๆ บนมือถือ
เพราะ“มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก” ซีอีโอหนุ่มของ Facebook มองว่า เมื่อโลกเข้าสู่ยุคข้อมูลข่าวสาร ข้อมูล คือ ความรู้ ที่เป็นทรัพยากรสำคัญที่ควรแบ่งปัน เมื่อคนมีความรู้มาก การคิดค้นพัฒนา ปัญหาต่างๆ ในสังคมก็ลดลง และอินเตอร์เน็ต ก็คือสะพานเชื่อมและส่งต่อความรู้นั่นเอง
และทั้งนี้ เทคโนโลยีอินเตอร์เน็ตเป็นโครงสร้างพื้นฐานตามหลักสิทธิมนุษย์ชนที่ทุกคนควรได้รับโดยไม่ต้องเสียค่าบริการ เมื่อทุกคนมีเน็ตฟรี การเข้าถึงข้อมูลที่จำเป็นต่อชีวิต เช่น โทรหาตำรวจฟรีทั่วโลก เล่นเว็บที่เป็นประโยชน์พื้นฐานสำหรับการดำรงชีวิตได้ฟรี เช่น อ่านความรู้จากวิกิพีเดีย ค้นข้อมูลจากกูเกิล ติดต่อหาเพื่อนผ่านโซเชี่ยล เน็ตเวิร์ก ดูสภาพพยากรณ์อากาศ เช็กราคาสินค้า ก็จะเกิดขึ้น
แต่ของฟรีไม่มีในโลก เขามองว่าการเปิดเน็ตให้คนในพื้นที่อื่นๆ เล่นฟรี ก็จะกระตุ้นคนเข้ามามากขึ้น เมื่อมีฐานลูกค้ามากขึ้น การโฆษณา หรือเสนอขายบริการใหม่ๆ ก็มีโอกาสมากขึ้นด้วย (ซึ่งหนึ่งในหลายๆ คนนั้นก็จะต้องมีคนพร้อมจ่ายค่าสินค้าและบริการใหม่ๆ เหล่านี้อยู่ด้วย) และนี้เองที่จะเป็นรายได้ทางตรงของโครงการนี้
และสิ่งที่มาร์คกับ Facebook จะทำได้เร็วก่อนก็คือ การเขียนโปรแกรมบนเว็บและแอปฯ ของ Facebook ที่ทำให้การใช้ข้อมูลในการส่งผ่านอินเตอร์เน็ตนั้นน้อยลง เพื่อประหยัดทั้งทรัพยากรและค่าใช้จ่าย
มาร์คเชื่อว่าโครงการ internet.org นี้จะเป็นหนึ่งในโครงการสำคัญของโลกในตลอด 3-5 ปีที่จะถึงนี้
อันที่จริงไอเดียการเชื่อมคน เชื่อมโลก ของซีอีโอหนุ่มคนนี้จริงๆ แล้วไม่ใช่เรื่องใหม่ เพราะก่อนหน้านี้ โปรเจคที่ต้องการทำให้บัญชีบนเฟซบุ๊กกลายเป็นบัตรประชาชนออนไลน์ก็ทำสำเร็จแล้ว เพราะใช้บัญชีนี้บัญชีเดียวจะเข้าเว็บไหนก็ได้ด้วยฟีเจอร์ Facebook Connect นั่นเอง
ดูวิดีโอท่านมาร์คพูดถึงโครงการสุดใจดีนี้ได้ที่นี่
ดูโครงการคล้ายๆ กันที่แจกเน็ตฟรีผ่านบอลลูนลอยฟ้าของกูเกิลได้ที่นี่
(ขอบคุณภาพจาก Nytimes.com และเนื้อหาจาก Wired.com)