ตั้งแต่เริ่มเปิดร้านค้าออนไลน์ขายของมาได้สักระยะ คุณเคยลองสังเกตหรือสำรวจร้านค้าของตัวเองอย่างจริงๆ จังๆ ดูสักครั้งหรือยัง ว่าที่ผ่านมาร้านมียอดขายมากเท่าไร มีคนเข้าชมร้านค้ามากแค่ไหน ลูกค้าพบเจอร้านของคุณได้อย่างไร ร้านค้าและสินค้าของคุณถูกค้นเจอด้วยคีย์เวริ์ดใดบน google มากที่สุด ฯลฯ
ซึ่งคำตอบของคำถามเหล่านี้ ถือว่าเป็นตัวชี้วัดความเอาใจใส่ร้านค้าออนไลน์ของคุณได้ในระดับหนึ่ง และชี้วัดไปถึงระดับความสำเร็จร้านค้าของคุณด้วย
- เปิดร้านมานานหรือยัง ??
เริ่มต้นด้วยการเช็คว่าร้านค้าของคุณถูกเปิดมานานเค่ไหนแล้ว และตลอดระยะเวลาที่เปิดร้านมา มียอดผู้เข้าชมเท่าไรแล้วบ้าง มียอด Page View ไปทั้งหมดเท่าไรแล้ว ข้อนี้หากเราแบ่งมุมมองเป็น 2 มุม ระหว่างฝั่งผู้ซื้อ กับฝั่งผู้ขายสินค้าออนไลน์ จะถูกมองด้วยประเด็นเล็กๆ แต่ส่งผลต่อร้านค้าดังนี้
เมื่อถูกมองจากฝั่งผู้ซื้อ ระยะเวลาการเปิดร้านตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้ ยอดผู้เข้าชมเว็บไซต์ และหน้าต่างๆ ภายในเว็บ จะเป็นตัวตัดสินตัวหนึ่งว่าร้านค้าของคุณนั้นค่อนข้างมีความน่าเชื่อถือหรือไม่ (แม้ว่าถ้าหากเทียบเปอร์เซ็นต์กับการพิจารณาจากความเคลื่อนไหวภายในเว็บบร์อด แฟนเพจ และอัตราการส่งพัสดุแล้ว ส่วนนี้อาจจะถือว่ามีคนมองน้อย แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีเลย) เรื่องระยะเวลาการเปิดร้าน อายุของร้านค้า จึงถือว่าเป็นส่วนหนึ่งที่ส่งผลกับการไว้วางใจที่จะสั่งสินค้าของผู้เข้ามชมเว็บไซต์ได้เช่นกัน
เมื่อมองจากฝั่งผู้ขายสินค้าออนไลน์ จุดนี้ถือว่าสำคัญ และไม่อาจมองข้ามไปได้ เพราะตัวเลขที่แสดงสถิติการเข้าชมเว็บไซต์ นั้นสื่อได้หลายๆ อย่าง ยกตัวอย่างเช่น การโปรโมทร้านค้าออนไลน์ หากคุณกระหน่ำโปรโมทร้านค้าออนไลน์อย่างเต็มกำลังแล้ว แต่ยังมียอดผู้เข้าชมเว็บไซต์น้อย มีการค้นเจอร้านค้าของคุณจาก google น้อยอยู่ สิ่งที่เกิดขึ้นนี้กำลังบ่งบอกกับคุณแล้วว่า มันต้องมีปัญหา หรืออะไรที่ผิดพลาดไปแน่นอน และคุณต้องรีบทำการค้นหาสาเหตุและแก้ไขโดยด่วน เป็นต้น
- ตั้งแต่เปิดร้านค้าออนไลน์ มียอดสั่งซื้อเท่าไร และจากทางไหนบ้าง ??
เพราะยอดขายสินค้าคือตัวชี้วัดที่สำคัญที่สุด ว่าร้านค้าออนไลน์ของคุณประสบความสำเร็จแค่ไหน การเก็บข้อมูลของยอดขายในแต่ละครั้งนั้นถือว่ามีความจำเป็นต่อการนำมาพัฒนาและหาแนวทางให้การโปรโมทร้านค้าออนไลน์ของเราต่อได้ เช่น สำรวจดูว่าตั้งแต่วันแรกที่เปิดร้านค้าออนไลน์ มาจนถึงกระทั่งปัจจุบัน มียอดขายทั้งหมดเท่าไร เฉลี่ยยอดขายอยู่ที่อาทิตย์ละกี่ออเดอร์ เพื่อนำมาวิเคราะห์หาแหล่งที่มาของลูกค้าว่ามาจากแหล่งใด เป็นเว็บไซต์ที่เราเคยลงประกาศไว้ หรือมาจากคำค้นหาของ Google
- ถ้ามาจากเว็บไซต์ลงประกาศ ที่เราได้เคยลงประกาศขายสินค้าเอาไว้ ก็แสดงว่าการลงประกาศขายในครั้งนั้นไม่ศูนย์เปล่า ให้เราเตรียม Book mark เว็บไซต์ลงประกาศเว็บนั้นสำหรับการโพสต์ลงประกาศในครั้งต่อๆ ไปได้เลย แต่ถ้าเว็บไหนที่เราเคยลงประกาศสินค้าเอาไว้ แต่ไม่เคยมีลูกค้ามาหาเราจากเว็บไซต์นั้น ก็ค่อยๆ คัดเลือกและตัดทิ้งไปทีละเว็บ เพื่อเป็นการคัดเลือกเฉพาะเว็บที่ลงประกาศแล้วได้ผลก็พอ เป็นการประหยัดเวลาในการลงประกาศขายสินค้าของเราในครั้งต่อๆ ไป เรียกได้ว่าแม้จะลงประกาศไม่มากเท่าแต่ก่อน แต่ก็มีเฉพาะเว็บคุณภาพที่หว่านพืชลงไปแล้วเห็นผล
- ลูกค้าของคุณส่วนใหญ่พบเจอสินค้า / เว็บไซต์ของคุณผ่านการค้นหาของ Google ให้คุณนำสถิติคีย์เวริ์ดแต่ละอันที่มีการค้นมากที่สุดของเว็บไซต์คุณมาจัดอันดับจากน้อยไปหามาก แล้วเลือกอันดับที่ดีที่สุดมาทำการโปรโมท ค่อยๆ ทำไล่ไปทีละอันดับจนแต่ละคีย์เวริ์ดของคุณอยู่บนหน้าแรกของ Google วิธีนี้จะช่วยให้คุณมีเป้าหมายที่ชัดเจนทั้งตัวสินค้า และคีย์เวริ์ดที่จะนำมาใช้ในการโปรโมท
- คุณจัดสรรเวลาให้กับร้านค้าออนไลน์ดีแค่ไหน ??
การบริหารเวลาถือเป็นศิลปะอย่างหนึ่ง ทุกคน ทุกร้านค้าออนไลน์ ล้วนมีเวลาเท่ากันนั่นคือ 24 ชม. ยิ่งสำหรับคนที่มีงานประจำอยู่แล้ว และขายสินค้าออนไลน์เป็นอาชีพเสริม ยิ่งต้องจัดการบริหารเวลาของร้านออนไลน์ให้ดีๆ ไม่ว่าจะเป็นการแบ่งเวลาสำหรับอัพเดตสินค้าใหม่ แบ่งเวลาในการลงประกาศขายสินค้า ทำ SEO หรือแม้แต่ช่วงเวลาต่างๆ ที่จะใช้ตอบคำถามต่างๆ ของลูกค้าผ่านทาง Facebook, Email, Line, Whatapp, IG ฯลฯ ไหนจะยังมีระยะเวลาที่จะเเพ็คสินค้า จัดส่งพัสดุอีก
เรื่องนี้ถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญเป็นอย่างยิ่ง เพราะหากคุณทำทุกอย่างโดยไม่มีการกำหนด Timeline ให้กับร้านค้าออนไลน์ของตัวเองอย่างชัดเจน จะทำให้การขาย การจดจำออเดอร์ลูกค้า การปฏิสัมพันธ์ต่างๆ กับลูกค้าล้วนแต่รวนไปทั้งระบบ หากในช่วงที่ยังมีออเดอร์ไม่มากนัก เรื่องนี้อาจไม่เป็นปัญหาสักเท่าไร แต่เมื่อใดที่ร้านค้าออนไลน์ของคุณมีออเดอร์เยอะจนถล่มทลาย และตัวคุณยังคงขาดการแบ่งเวลา และการจัดการที่เป็นระบบอยู่ จะทำให้เกิดปัญหาในการค้าขายขึ้นอย่างแน่นอน
- แนวทางในการพัฒนาและต่อยอดร้านค้า ??
เคยคิดเอาไว้หรือไม่ว่าในอีก 1-2 ปีถัดไป ของการเปิดร้านค้าออนไลน์ของคุณ คุณวางแผนให้กับร้านค้าอย่างไรบ้าง หรือยังคงไว้ที่รูปแบบเดิมๆ ขายแบบนี้ไปเรื่อยๆ เราเชื่อค่ะว่าหากคุณค่อยๆ สั่งสมประสบการณ์จากการขายสินค้าออนไลน์ ไปเรื่อยๆ แนวทางในการต่อยอดและพัฒนาสินค้าจะค่อยๆ ผุดไอเดียขึ้นมาเอง ดังนั้น จึงไม่ต้องเป็นกังวลไปสำหรับคนที่ยังไม่มีแผนการจะต่อยอดร้านค้าในเร็วๆ นี้
- สำรวจความรู้สึกของตัวเองบ้าง ??
อย่ามัวแต่สำรวจสถิตินั่น โน่น นี่ ของร้านค้าออนไลน์ จนลืมสำรวจอารมณ์ของตัวเอง เพราะหากเราอยู่ในสภาพขุ่นมัว ท้อแท้ ที่ไม่ว่ามันจะมาจากการขายสินค้าไม่ได้ เปิดร้านมานานแล้วก็ยังขายไม่ออก ยอดขายเดือนนี้น้อยกว่าเดือนที่แล้ว หรือแม้แต่การถูกลูกค้าต่อว่า ฯลฯ จนพาลให้ไม่มีกระจิตกระใจจะเช็คอีเมล์ ตอบคำถามลูกค้า หรืออะไรต่างๆ แล้วล่ะก็ ถือเป็นสัญาณที่ไม่ดีอย่างมาก
เพราะทันทีที่มีความขุ่นมัวในอารมณ์ มันจะกระทบการงานของเราเสมอๆ ไม่ว่างานนั้นจะเป็นอะไร เพราะฉะนั้น หากคุณกำลังท้อแท้ หมดกำลังใจ หรือมีสิ่งใดๆ ก็ตามที่กำลังเข้ามาบั่นทอนตัวคุณ ขอให้ละจากหน้าจอคอมพิวเตอร์ วางมือจากโทรศัพท์มือถือ สมาร์ทโฟนสักครู่ ออกไปหาสิ่งที่ชอบ ออกไปหากิจกรรมอื่นๆ ทำ เพื่อเป็นการผ่อนคลายอารมณ์ให้แจ่มใสและดีขึ้นก่อน ค่อยมาลุยกันใหม่
ขอบคุณเครดิตภาพจาก http://www.sxc.hu/profile/nkzs