คนที่เล่นเน็ตทุกคน อาจจะไม่รู้ตัวว่าตัวเองได้คุ้นเคยกับระบบบัญชีที่เป็นเสมือนศูนย์กลางการเข้าสู่ระบบของเว็บไซต์อื่นๆ (single sign-on solutions) หรือพูดให้ชัดเจนก็คือ เอาบัญชีผู้ใช้ของเว็บเดียว ไปใช้งานเว็บอื่นๆ ได้ โดยไม่ต้องเสียเวลาสมัครสมาชิก กรอกข้อมูลมากมาย และคิดและจำชื่อผู้ใช้และรหัสผ่านใหม่
ซึ่งปัจจุบัน เว็บไซต์ที่ได้ชื่อว่าทำระบบ single sign-on ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด ก็คือ เฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ และกูเกิล นั่นเอง สำหรับสองรายแรก เราจะเห็นว่าเมื่อเราไปเล่นเว็บใหม่ๆ นอกเหนือจากปุ่ม sign in แล้ว ยังมีปุ่มที่ใช้ชื่อว่า Sign up by Facebook, Twitter เมื่อเราคลิกปุ่มนี้ ระบบก็จะแสดงข้อความให้เราอนุญาตเชื่อมโยงข้อมูลบัญชีของเฟซบุ๊กเข้ากับเว็บไซต์ใหม่ได้ทันที และส่วนกูเกิลเองก็บัญชีจีเมล์เป็นศูนย์กลางเพื่อเชื่อมโยงการใช้งานได้กับทุกบริการของกูเกิลนั่นเอง
อันที่จริงระบบ single sign-on นั้นไม่ได้เพียงแต่ให้ความสะดวกกับผู้เล่นเว็บเท่านั้น แต่ยังให้ประโยชน์อย่างมากสำหรับผู้ทำเว็บด้วย นั่นก็เพราะว่าเมื่อเรากดอนุญาตให้เว็บใหม่ใดๆ นำข้อมูลของเฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ไปใช้ ผู้ทำเว็บใหม่นั้นก็จะสามารถได้ข้อมูลเบื้องต้นที่เราใส่ไว้ในเฟซบุ๊กได้ ซึ่งก็แล้วแต่ว่าเว็บๆ นั้นต้องการข้อมูลใดๆ บ้าง เช่น ชื่อ เพศ การศึกษา ที่อยู่ รูปภาพ วิดีโอ หรือแม้แต่ สถานะการแต่งงาน เป็นต้น
ล่าสุด ทาง “เพย์พาล (Paypal)” ผู้นำระบบจ่ายเงินออนไลน์ ก็ผันตัวมาผลักดันระบบ single sign-on ของตัวเองด้วย โดยใช้ชื่อว่า Log In with PayPal (ชื่อเดิมคือ PayPal Access) ระบบนี้ทำให้นักช้อปสบายใจและสะดวกกว่าที่เคยในการช้อปปิ้งจากทุกเว็บอีคอมเมิร์ซ
กล่างคือ เมื่อใดที่เห็นสินค้าที่ต้องการซื้อออนไลน์ ก็กดปุ่ม Log In with PayPal ระบบก็จะเปิดหน้าต่างขออนุญาตให้เราเชื่อมโยงบัญชีเพย์พาล กับเว็บช้อปปิ้งนี้ และระหว่างนี้ก็จะระบุว่าข้อมูลอะไรที่เว็บนี้จะดึงมาจากข้อมูลที่เราใส่ไว้ในเพย์พาลบ้าง (ซึ่งก็จะคล้ายกับเฟซบุ๊ก แต่ส่วนที่เพิ่มขึ้นมาคือ ประเภทของบัญชีเพย์พาล ว่าเป็นธรรมดาหรือพรีเมี่ยม และวันที่เริ่มใช้งานบัญชีนี้) จากนั้นก็สามารถกดซื้อสินค้าได้ทันที
วิธีนี้ทำให้ผู้ซื้อสามารถซื้อสินค้าออนไลน์ได้ไวขึ้น ส่วนพ่อค้าก็มีโอกาสได้ข้อมูลส่วนตัวจากลูกค้าด้วย โดยผู้สร้างเว็บอีคอมเมิร์ซสามารถนำระบบนี้ไปติดตั้งที่เว็บไซต์ของตนได้ (อ่านข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับนักพัฒนาเว็บได้ที่นี่)
นอกจากนี้ระบบ Log In with PayPal สามารถใช้งานกับการช้อปปิ้งผ่านมือถือและแท็ปเบล็ตพีซี ทุกขนาดหน้าจออีกด้วย
อย่างไรก็ดี เรามีคำแนะนำเล็กๆ น้อยๆ สำหรับผู้ที่กำลังปรับมาใช้ระบบ Log In with PayPal นั่นก็เพราะว่าความง่ายของการกดซื้อ ทำให้อาจเกิดข้อผิดพลาด เช่น คนอื่นมาใช้บัญชีเรา หรือโดนแฮค ดังนั้นวิธีที่ดีที่สุดที่จะป้องกันปัญหาการจ่ายเงินโดยอุบัติเหตุ คือ การกำหนดงบที่สามารถใช้ซื้อของผ่านเพย์พาลนั่นเอง ซึ่งวิธีจำกัดงบก็สามารถทำได้กับการกำหนดวงเงินในบัตรเครดิต (เสมือนจริง) นั่นเอง เช่น กำหนดว่าช้อปได้ไม่เกิน 5000 บาท/เดือน เมื่อเราผูกบัญชีนี้กับเพย์พาลแล้ว การซื้อขายออนไลน์ก็จะจ่ายได้ไม่เกิน 5000 บาท/เดือน นั่นเอง (อ่านข้อมูลเกี่ยวกับบัตรเครดิตเสมือนจริงได้ที่นี่)
ดูวิดีโอสาธิตการใช้งาน Log In with PayPal ได้ที่นี่
http://youtu.be/h9Mk-7gdv0A