วอลมาร์ท (Walmart) ขึ้นชื่อว่าเป็นห้างค้าปลีกจากอเมริกา แต่มีสาขามากที่สุดในโลก ล่าสุดได้อัปเกรดช่องทาง E-commerce ด้วยหลากวิธี เพื่อหวังที่จะทำให้ธุรกิจค้าปลีกของตัวเองสามารถเอาตัวรอดและแข่งกับคู่แข่ง E-commerce ใหญ่ๆ อย่าง Amazon, Ebay, หรือแม้แต่ Google Shopping Express ที่หันมาทำระบบเว็บช้อปปิ้งและชำระค่าสินค้าออนไลน์
ปีนี้ทางวอลมาร์ทหลังจากหันมาเอาจริงเอาจังเรื่องการขายของออนไลน์ และมือถือ ดังนั้นการจัดส่งสินค้าไวที่สุดถือเป็นเรื่องแรกที่ต้องพิชิต ที่ผ่านมาทั้ง Amazon และ Google ต่างงัดไม้ตายคือ สั่งวันไหน ได้รับของภายใน 24 ชั่วโมงของวันนั้น ซึ่งถือเป็นการเอาใจผู้บริโภคอย่างตรงจุด
และนี่คือ 3 กลยุทธ์ที่ทางวอลมาร์ทงัดมาใช้ใน Online-Mobile Commerce
กลยุทธ์แรกที่ทางวอลมาร์ทใช้คือการทำระบบ Self Checkout เพื่อให้คนทำหน้าที่เป็นแคชเชียร์ สแกนบาร์โค้ดสินค้าจากแอปฯ Scan & Go ของวอลมาร์ทผ่านมือถือระหว่างที่ช้อปในห้าง จากนั้นก็เข้าช่องพิเศษจ่ายเงินทันที ไม่ต้องรอต่อคิว
กลยุทธ์ที่สองคือ การติดตั้งตู้ล็อกเกอร์ตามห้างหรือสถานที่คนพลุกพล่านต่างๆ เพื่อให้ลูกค้าที่สั่งของออนไลน์ สามารถแวะไปรับของด้วยตัวเองได้ โดยไม่ต้องรอให้ของส่งถึงบ้าน แล้วอาจจะไม่อยู่รับ เป็นต้น ไอเดียนี้ Amazon เคยทำก่อนหน้านี้แล้ว โดยตั้งตู้ในทำเลดีๆ อย่าง 7-11 ด้วย
และกลยุทธ์สุดท้ายที่กำลังทดลองอยู่ภายใต้แนวคิดที่ว่า “Sharing Economy” กล่าวคือ ทางวอลมาร์ทจะใช้ลูกค้าที่มาช้อปปิ้งซื้อของเป็นบุรุษไปรณีย์เพื่อส่งสินค้าให้ลูกค้าที่สั่งออนไลน์ (โดยเป็นผู้ที่อยู่ระแวกบ้านของตัวเอง) เพื่อแลกกับส่วนลดในการช้อปปิ้งครั้งต่อไป
ทั้ง 3 กลยุทธ์ของวอลมาร์ททำให้เห็นชัดว่า E-Commerce นั่นเขย่าตลาดช้อปปิ้งออฟไลน์ได้จริงๆ
ดูวิดีโอแนะนำแอปฯ Scan & Go ได้ที่นี่
[youtube_video id=”XVlGZ8ntGO4″]