บังเอิญว่าเมื่อวานตอนเย็นขณะที่กำลังเดินทางกลับบ้าน สายตาดันเหลืบไปเห็นผู้หญิงคนหนึ่งถือของพลุงพลังเต็มมือไปหมด ท่าทางจะสนุกกับการช็อปสินค้าแบบกระหน่ำมา และด้วยความมีน้ำใจของเราก็เลยเอ่ยปากช่วยถือของให้ แต่สงสัยคุณเธอจะห่วงของแบรนด์เนมที่เพิ่งไปช็อปตอนลดราคาเลยยื่นกระเป๋าสะพายหนักอย่างกับแบกหินมาให้เราแทน กว่าจะถึงที่หมายของคุณเธอเล่นเอาขาทั้งสองข้างชาจนไร้ความรู้สึก นี่คุณเธอจะรู้หรือไม่นะว่าสาเหตุเล็กๆ อย่างการสะพายกระเป๋าหนักนี่แหละที่เป็นต้นเหตุหลักของการปวดตามกล้ามเนื้อต่างๆ วันนี้เราเลยขอเอาเกร็ดความรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้มาฝากกันคะ เผื่อจะเป็นแนวทางป้องกันเบื้องต้นที่ดีสำหรับใครอีกหลายคน
ปัจจุบันนี้กระเป๋าถือเป็นอีกหนึ่งอวัยวะที่เสริมเข้ามาในร่างกายของคนเรา ที่ช่วยให้สะดวกสบายยิ่งขึ้นเพราะไม่ว่าต้องการอะไร กระเป๋าใบเก่งที่ทำหน้าที่เสมือนโดเรม่อนก็สามารถเนรมิตให้เราได้ทันที แต่หารู้ไม่ว่ามันส่งผลเสียต่อร่างกายไม่ใช่น้อย ยิ่งกระเป๋าใบนั้นที่คุณสะพายมีปริมาณของน้ำหนักมากเท่าไร ยิ่งส่งผลต่อกล้ามเนื้อและกระดูกของคุณมากเท่านั้น ต่อให้คุณสะพายถูกวิธีตามคำแนะนำครบทุกขั้นตอน ก็เป็นแค่การบรรเทาอาการเบื้องต้นเท่านั้น เพราะน้ำหนักทั้งหมดของกระเป๋าจะไปกองรวมกันอยู่ที่กล้ามเนื้อและกระดูกสันหลังของคุณ ยิ่งเวลาลุกขึ้นเดินด้วยแล้ว น้ำหนักจะเพิ่มมากขึ้นเป็นสองเท่า โดยกระจายไปตามส่วนต่างๆ เช่น บ่า ไหล่ ต้นคอ หลัง ข้อเท้า ข้อเข่า ซึ่งส่งผลให้กล้ามเนื้อและกระดูกในส่วนต่างๆ เกิดอาการบอบช้ำในระยะยาวและยากต่อการรักษา แต่หากการแบกกระเป๋าหนักเป็นสิ่งที่คุณหลีกเลี่ยงไม่ได้ ลองทำตามวิธีที่เราเอามาฝากดูด้านล่างได้เลยคะ
สะพายกระเป๋าอย่างไรไม่ให้ปวดหลัง
- เวลาที่คุณเดินสะพายกระเป๋าเป้หรือสายกระเป๋าข้างเดียว ต้องตั้งศีรษะและไหล่ให้ตรงระนาบเดียวกับลำตัวเสมอ ไม่เดินเอียงไหล่ตามนำหนักของกระเป๋า เพราะอาจส่งผลให้คุณมีการปวดไหล่ขึ้นมาได้ง่าย
- ดึงสายประเป๋าเป้ที่คล้องไหล่ทั้งสองข้างมาด้านหน้า เพื่อให้กระชับวงแขนหรือติดแผ่นหลังมากที่สุด อย่าทำเท่ห์สะพายกระเป๋าห้อยยาวถึงก้น เพราะน้ำหนักทั้งหมดจะท่วงไปอยู่ข้างหลัง ทำให้กล้ามเนื้อคอและหลังช่วงบนทำงานหนักกว่าปกติ
- เวลาจัดของในกระเป๋าให้นำของที่หนักสุดวางไว้ด้านล่าง
- ของที่ใส่ลงในกระเป๋าต้องมีน้ำหนักไม่เกิน 15 เปอร์เซ็นต์ของน้ำหนักตัว เพราะอาจส่งผลให้รูปร่างของคุณดูผิดปกติและเสียบุคลิกไปจากเดิม
- สิ่งของที่ไม่จำเป็นไม่ควรใส่ลงไปในกระเป๋า เพราะจะทำให้กระเป๋าของคุณมีน้ำหนักเพิ่มมากขึ้น และคอกับไหล่ของคุณก็ต้องรับน้ำหนักเพิ่มขึ้นกว่าเดิมอีกด้วย
แม้ว่าเรื่องที่กล่าวมาทั้งหมดข้างต้นนี้ อาจเป็นสิ่งที่หลายคนหลีกเลี่ยงไม่ได้ อาจด้วยความจำเป็น ลักษณะการทำงาน ความคล่องตัวในการเดินทางโดยใช้กระเป๋าใบเดียว แต่อย่างน้อยเทคนิคเล็กๆ เหล่านี้ก็เป็นช่องทางให้คุณนำไปปฏิบัติใช้เพื่อบรรเทาอาการให้ทุเลาลงได้ และอย่างน้อยยังเป็นเครื่องเตือนสติให้คุณได้รู้ว่าเวลาจะใส่ของอะไรลงไปในกระเป๋าต้องคำนึงถึงผลเสียระยะยาวที่ตามมาในอนาคตข้างหน้าด้วย
ขอบคุณข้อมูลจาก : lamlery
