ช่วงที่ฝนตกแบบนี้นอกจากการดูแลสุขภาพของเราแล้ว การดูแลรถก็สำคัญไม่แพ้กัน เพราะการที่รถตากฝนบ่อย ๆ นั่นหมายความว่าเราต้องดูแลรถมากขึ้น ต้องทำความสะอาดและดูแลอย่างเป็นพิเศษ วันนี้เราจึงมีวิธีดูแลรถง่าย ๆ มากฝากกันจ้า ตามมาดูกันเลย

รถลุยฝนมาให้รีบล้าง

หลังจากที่รถของเราผ่านการตากฝนมา ควรใช้น้ำเปล่าฉีดล้างให้คราบต่าง ๆ หลุดไปก่อน แล้วค่อยเช็ดด้วยผ้าด้วยผ้าสำหรับเช็ดรถ เพราะการที่รถตากฝนมา แล้วปล่อยรถทิ้งไว้โดยไม่ล้างอาจทำให้เกิดคราบฝังแน่น และส่งผลต่อสีของรถเราได้ หลังจากเช็ดรถของเราให้แห้งเรียบร้อยแล้ว หากต้องจอดรถกล้างแจ้ง ก็ควรหาผ้ามาคลุมรถไว้ด้วยนะจ๊ะ

ล้างรถ

ห้ามเช็ดรถโดยไม่ได้ล้าง

หลายคนอาจจะคิดว่าการที่รถไปลุยฝนมา ก็เหมือนเป็นการล้างรถอย่างหนึ่ง พอถึงบ้านปั๊บเช็ดรถปุ๊บ วิธีนี้เป็นวิธีที่ไม่ถูกต้องนะ หากเราเช็ดรถโดยไม่ได้ล้างเลย อาจทำให้เกิดรอยขนแมวกับรถของเราได้ ดังนั้นเมื่อล้างรถเรียบร้อยแล้วควรเช็ดให้แห้ง เพราะในสภาพอากาศชื้น ๆ แบบนี้ อาจทำให้รถเกิดสนิมได้

ใต้ต้นไม้ห้ามจอด

ในช่วงหน้าฝนแบบนี้ ไม่ควรจอดรถไว้ใต้ต้นไม้ เพราะในช่วงที่ฝนตกหนัก กิ่งไม้ ใบไม้ เกสรดอกไม้ หรือผลของต้นไม้ อาจจะปลิวหรือหล่นมาโดนรถของเรา ทำให้รถของเราเป็นรอยได้

เคลือบสีรถช่วยได้

ความจริงแล้วฝนที่ตกลงมานั้นมีสภาพเป็นกรดอ่อน ๆ ซึ่งนั่นก็ส่งผลต่อสีของรถเรา ทำให้สีหมองได้ ดังนั้นหลังจากที่ทำความสะอาดเรียบร้อยแล้วควรนำรถไปเคลือบสี การเคลือบสีนั้นนอกจากจะทำให้รถของเราสีสวยไม่ซีดแล้ว ในช่วงที่ฝนตกนอกจากจะทำให้น้ำไม่เกาะรถเราแล้ว ยังช่วยป้องกันคราบต่าง ๆ ได้ดี ที่สำคัญยังช่วยให้เราล้างรถได้ง่ายขึ้นอีกด้วย

เช็คสถาพรถ

อย่าลืมเช็คสภาพรถ

ในช่วงหน้าฝนแบบนี้ที่สำคัญอย่าลืมหมั่นตรวจเช็คสภาพรถนะคะ ไม่ว่าจะเป็นยางปัดน้ำฝน ระบบเบรค ไดสตาร์ท  ยางรถยนต์ และระบบอื่น ๆ ภายในรถ เพื่อความปลอดภัยในการขับขี่

ฝนตกแบบนี้อย่าลืมดูแลรถอย่างเป็นพิเศษ เพื่อรถสวย ๆ จะได้อยู่คู่กับเราไปนาน ๆ นะคะ สำหรับตอนนี้ก็เริ่มเข้าสู่ช่วงหน้าฝนแล้ว อย่าลืมขับรถด้วยความระมัดระวังเป็นพิเศษด้วยนะคะ ^^