พอกำลังซักผ้าปุ๊ป จู่ ๆ ฝนก็เทลงมาปั๊บ แบบไม่ทันตั้งตัว เสื้อที่จะต้องใส่ไปทำงานก็หมดแล้ว อากาศชื้นแบบนี้จะจัดการกับปัญหาผ้าไม่เเห้งอย่างไรดี ตามมาดูเคล็ดลับง่าย ๆ ที่เรานำมาฝากกันได้เลย รับรองว่าเพื่อน ๆ จะได้ผ้าที่แห้งทันใส่ในวันถัดไปแน่นอนจ้า ^0^

เครื่องอบผ้า ตัวเลือกสำหรับคนงบเยอะ

เครื่องอบผ้าช่วยแก้ปัญหาผ้าอับชื้นได้ดีอย่างดีเยี่ยมเลยล่ะ แถมยังใช้เวลาน้อย ฝนตกหนักแค่ไหนก็ไม่หวั่น เจ้าเครื่องอบผ้านี้มีข้อเสียตรงที่ตัวเครื่องมีราคาสูง และค่อนข้างเปลืองไฟ ซึ่งผ้าบางชนิดก็สามารถใช้กับเครื่องอบผ้าได้ และผ้าบางชนิดก็ไม่สามารถใช้กับเครื่องอบผ้าได้นะ ต้องศึกษาดูให้ดี แต่ถ้าใครมีงบสูงหน่อยวิธีนี้เอาอยู่แน่นอน

ใช้ไดร์เป่าผม หรือตากไว้ตรงคอมเพรสเซอร์แอร์

เราสามารถใช้ลมร้อนจากไดร์เป่าผม ทำให้ผ้าแห้งได้ด้วยนะ วิธีนี้ใช้ได้ดีกับผ้าที่ไม่หนามาก แต่ถ้ามีเวลาพอซักผ้าเสร็จแล้ว ก็นำมาตากไว้ตรงคอมเพรสเซอร์แอร์ ลมร้อน ๆ จากคอมเพรสเซอร์แอร์จะช่วยให้ผ้าของเราแห้งไวขึ้นแถมไร้กลิ่นอับ เลิศสุด ๆ

ในเวลาเร่งรีบ เตารีดช่วยได้

ถ้าผ้าที่เราตากไว้ยังมีความชื้นอยู่ แล้วต้องรีบใช้เดี๋ยวนั้นก็ใช้เตารีดจัดการซะเลย ทั้งทำให้ผ้าแห้งไวแถมได้รีบผ้าไปในตัว ถ้าใครรีบ ๆ วิธีนี้เอาอยู่จ้า แต่ไม่ควรใช้เตารีดกับเสื้อที่เปียกชุ่มนะ ควรรีดกับเสื้อที่มีความชื้นพอประมาณ หรือใกล้แห้งแล้ว ที่สำคัญควรรีดด้วยความระมัดระวังเพราะผ้าอาจจะไหม้ได้

ตากด้วยพัดลม วิธีสุดคลาสสิค

สำหรับใครที่ไม่สะดวกตามวิธีด้านบน และมีเวลามากหน่อยก็สามารถนำผ้ามาผึ่งตากกับพัดลมได้  วิธีนี้ควรบิดผ้าให้หมาดที่สุด หรือถ้าใช้เครื่องซักผ้าแบบปั่นแห้ง ก็จะช่วยทำให้ผ้าแห้งเร็วได้ ที่สำคัญอย่าลืมเว้นระยะห่างของผ้าที่ตากให้ดี ถ้าตากชิดกันจนเกินไปผ้าจะไม่แห้งเอาได้

สำหรับใครที่กลัวผ้าที่ตากไว้มีกลิ่นอับ ทุกครั้งที่ซักผ้าอย่าลืมใส่น้ำยาปรับผ้านุ่มหอม ๆ จะช่วยลดกลิ่นอับได้ ที่สำคัญเสื้อผ้าชิ้นไหนที่ตากไว้แล้วยังไม่แห้งดีก็ไม่ควรนำมาใส่ เพราะอาจทำให้เสี่ยงต่อการเกิดโรคทางผิวหนัง อย่างเช่นโรคเชื้อราได้ สุดท้ายนี้ช่วงนี้กำลังเข้าสู่หน้าฝนอากาศค่อนข้างเปลี่ยนแปลงบ่อย อย่าลืมรักษาสุขภาพกันด้วยนะจ๊ะ ^^