ไ ต้ ห วั น ค  น เ ดี ย ว ก็ ไ ด้ ห ล า ย ค น ก็ ส นุ ก น ะ ツ

 

วันนี้มาขอใช้พื้นที่บันทึกความทรงจำไว้ซะหน่อย ไม่อยากใช้คำว่ารีวิวเพราะรีวิวไต้หวันตอนนี้มีเยอะแยะแถมละเอียดแบบสุดๆ
เอาเป็นว่าแค่บันทึกความทรงจำพร้อมคำแนะนำนิดหน่อยให้คนที่ไม่รู้จะเริ่มต้นวางแผนยังไงดีก็แล้วกันเนอะคำเตือน *กระทู้นี้ไม่ค่อยมีประโยชน์แบบกระทู้อื่น มีแค่เกร็ดเล็กน้อยดังนี้*
1.แหล่งหาคลังข้อมูล ที่มีไว้รับรองว่ารอด (เพราะรอดมาแล้ว แฮ่)

2.แนะนำโฮสเทลน่ารักราคาถูก พร้อมจะบอกข้อเสียให้ฟัง (ห้ ะ !)

3.ใครต้องนอนสนามบินฟังทางนี้ (ตามป้ามาค่ะลูกกกก)

4.ภาษาจีนไม่กระดิก จะต้องเจอกับอะไรบ้าง ?

5.การขึ้นรถไฟฟ้าและบัตร โย่ โย่ว ข่า 悠遊卡 (แล้วทำไมต้องโย่โย่วข่า ?)

 

1.แหล่งหาคลังข้อมูล ที่มีไว้รับรองว่ารอด (เพราะรอดมาแล้ว แฮ่)

ก่อนจะไปเที่ยวไหนๆ (โดยเฉพาะต่างบ้านต่างเมือง)​ เราก็จำเป็นต้องศึกษาวิธีการเดินทาง นู่นนี่นั่นไว้ก่อนไปเพื่อเตรียมความพร้อมกันอยู่แล้วใช่ไหมคะ ทีนี้เราก็เลยจะเอาแหล่งข้อมูลหรือที่มาของข้อมูลที่เป็นประโยชน์สุดๆมาฝาก รับรองว่าอยากรู้อะไร สิ่งที่นำมาฝากต่อไปนี้ ช่วยได้ไม่น้อยกว่า 80% แน่ๆ

1.1. http://www.1000milesjourney.com/
มีทุกสิ่งให้เลือกสรรยิ่งกว่า 7-11 ค่ะคุณ เชิญค่ะ มีตั้งแต่เรื่องซิมการ์ด การเดินทางจากสนามบินเข้าเมือง บลาๆ
เผื่อเจ้าของเว็บไซต์ผ่านมาเห็น อยากบอกว่าขอบคุณมากๆค่ะสำหรับข้อมูลมากมายล้นพ้น

1.2. http://www.flymetotaiwan.com/
เหมือนข้างบนค่ะ คลังอาวุธ มีให้หยิบเลือกใช้กันสะดวก สงบ สบาย สะอาด อ่อไม่ใช่ .  .  .  .

1.3. กรุ๊ปที่เกี่ยวกับไต้หวันใน facebook หลักๆจะเป็น กรุ๊ป : ท่องเที่ยวในไต้หวันด้วยตัวเอง และ TAIWAN หว่อไหลเลอ !

มีสามอย่างนี้ สำหรับเราเพียงพอนะ ครบ จบ แยก

(เราไม่มีส่วนได้เสียใดๆกับเว็บไซต์และเพจที่กล่าวมาทั้งหมด เพียงแต่เห็นว่ามีประโยชน์และอยากแนะนำ)

________________________________________________________________

2. แนะนำโฮสเทลน่ารักราคาถูก พร้อมจะบอกข้อเสียให้ฟัง (ห้ ะ !)

ที่พักที่เราไปพัก เราเลือกโฮสเทลชื่อ STAR HOSTEL ,taipei main station
เป็นโฮสเทลที่น่ารัก อบอุ่น และถือว่าเป็นโฮสเทลยอดนิยมของชาวเกาหลี ( พวกเธอรู้แล้วใช่มั้ยทำไมชั้นเลือกที่นี่ ! )
ที่นี่มีห้องพักหลายแบบค่ะ ทั้งแบบห้องที่เป็นส่วนตัวสำหรับ 2 คน ทั้งแบบที่เป็น dorm หรือหอพัก
แบบหอพักก็จะมีให้เลือกอีกว่า หญิงล้วน ชายล้วน หรือ ชายหญิง  ถ้าพักแบบ dorm จะเป็นห้องน้ำรวมนะคะ
แต่ทุกอย่างคือสะอาด อยู่แล้วสบายตาสบายใจ แต่ไม่สบายเท้า (เด๋วบอกว่าทำไม)

ห้องพ้กที่เราเลือกเราเลือกแบบ dorm หญิงล้วน ห้องละ 8 คนน่าจะได้ ข้างในจะเป็นเตียง 2 ชั้นค่ะ มี locker แยกให้ ห้องน้ำรวมนะคะ
มีห้องอาบน้ำ 2 ห้อง ห้องส้วม 2 ห้อง มีไดร์เป่าผมให้ค่ะ โอเคเลยล่ะสำหรับเรา ค่าเสียหาย 3 คืน 2058NT หรือประมาณ 2100 บาท
(ตกคืนละ 700 ถูกไหมละแกรรรรรร นี่พร้อมอาหารเช้านะคะคุณ)


เตียงเราข้างล่าง เพื่อนเราอยู่เตียงบน


พื้นที่ส่วนกลางของโฮสเทล เป็นที่ๆสำคัญนะคะสำหรับโฮสเทล คุณจะได้พักเหนื่อย พร้อมได้เพื่อนใหม่ๆจากที่นี่ ถ้าขยันยิ้ม ขยัน say hi !
ที่นี่เค้าจัดส่วนกลางออกมาน่ารัก มีเกาหลีมานั่งคุย นั่งกินนู่นนี่ บางคนก็ปีนขึ้นไปนอนข้างบนอีกต่างหาก
(เค้าจะมีเหมือนบ้านต้นไม้ให้ ก็มีคนปีนไปนอนนะเออ สบายยย 55555 )

ในครัวก็มีตู้เย็น ไมโครเวฟ จานชามแก้วช้อนซ้อม เครื่องทำกาแฟก็มีนะ ส่วนตัวเราโอเคมากๆ เพราะพื้นที่พวกนี้ทำให้เรามีเพื่อนใหม่
เราได้ขนมปัง home made จากเพื่อนใหม่ชาวเกาหลีที่เข้ามาแนะนำตัว ถึงจะคุยกันไม่ค่อยรู้เรื่อง แต่รู้แน่ๆว่าเราอยากเป็นเพื่อนกัน ツ


พนักงานกำลังทำอาหารเช้า ยิ้ม


นี่พวกเธอ ไอ้ชานมซองเหลืองๆด้านซ้ายนั่นอร่อยนะ
ถ้าอยากซื้อติดไม้ติดมือ เราแนะนำไปคาร์ฟู (ที่นั่นของราคาถูกกว่า ไม่ต้องเสียเงินแพงแบบตามร้านของฝาก )

ที่ตั้ง : 4F, No. 50, Huayin Street, Datong District, 103 Taipei, Taiwan
การเดินทาง : จาก Taipei main station เดินไปทาง metro mall ทางออก Y13 (ไกลหน่อย)
การจอง : เราจองจาก booking.com ไปจ่ายที่นู่น จบ

สรุปข้อดี
-ถูก
-น่ารัก อบอุ่น
-ได้เพื่อนใหม่
-ที่นอนก็โอเค ห้องน้ำก็สะอาด

สรุปข้อเสีย
-เดินจาก metro mall ไกลมากกกกกกก ขาขวิดเลย ยิ่งวันที่ไปเที่ยวมาไกลๆ หรือช็อปของมาหนักๆ บอกตรงๆ ต้องสู้เท่านั้นถึงอยู่รอดค่ะ !
เหนื่อยจริงๆ ปวดทีนนนมากๆ แต่ถ้าไม่มีปัญหาเมื่อยล้า ปวดเท้าจากการเดินไกลที่อื่นมาก่อน ก็เดินชิวๆค่ะ
ตลอดทาง metro mall มีร้านให้ช้อปปิ้งเพลินๆ มีกาชาปอง มีร้านของเล่น ฟิกเก้อ บลาๆ

ข้อเสียมีแค่นี้จริงๆนะ สรุป ประทับใจ แนะนำเลยสำหรับวัยรุ่น(หรอ)
*แต่สำหรับใครที่ไปเที่ยวแบบมีเด็กหรือผู้ใหญ่มีอายุไปด้วยไม่แนะนำนะคะ ไกลเกินไป น่าจะหาที่เดินทางสะดวกให้มากกว่านี้ค่ะ*


จิ่ ว เ ฟิ่ น3.ใครต้องนอนสนามบินฟังทางนี้ (ตามป้ามาค่ะลูกกกก)สำหรับใครที่เดินทางด้วยสายการบิน low cost จงมีต่อมเอ๊ะ ! ในความถูก ของถูกมีจริงค่ะ แต่ก็ต้องแลกด้วยอะไรบางอย่าง ซึ่งส่วนใหญ่มักเป็นเรื่องเวลาเดินทาง เวลามักไม่ค่อยสวยเท่าไหร่นัก ครั้งนี้เราเดินทางด้วย Tiger airway ซึ่งเดินทางไปถึงสนามบินเถาหยวนราวเที่ยงคืนไต้หวัน (เวลาไต้หวันเร็วกว่าบ้านเรา  1 ชั่วโมงค่ะ )แล้วปัญหาสำหรับการเดินทางไปถึงเที่ยงคืนคืออะไรคะคุณ ทายสิ ? ก็คือจะไปนอนที่ไหนสำหรับคืนนั้นไง ถ้าชอบสบาย เงินเหลือๆหน่อยก็จองโรงแรมสำหรับคืนนั้นไปด้วยเลยค่ะ ถึงสนามบินปุ้ปนั่งรถเข้าเมืองหรือไปโรงแรมที่จองไว้ได้เลย (รถเข้าเมืองมีตลอดคืนนะ)แต่สำหรับเราแล้วนั้นนน . . . .  เงินไม่มี แถมอายุแค่นี้ แรงเหลือๆก็ทนเอา (หรอ) เลยเลือกนอนที่สนามบินค่ะ
สนามบินที่นี่จะมีที่นั่งเป็นโซฟายาวๆไว้ให้ ตรงโซฟาก็มีที่ชาร์จและมี wifi ให้ด้วย เริ่ดประแกรรร  เดินไปอีกนิดก็ตู้กดน้ำ เลี้ยวหน่อยก็ห้องน้ำกว้างๆและสะอาด ทุกอย่างเป็นของเรา ฮ่าๆ เดินลงบันไดเลื่อนไปหน่อยก็เจอมินิมาร์ท  ซ้ายหน่อยก็ร้านขายซิม ขวาหน่อยก็ bus to cityNOTE : สนามบินที่นี่ร้านรวงต่างๆจะปิดเร็วนะคะ ไม่เกิน 22.00 มีแค่มินิมาร์ท Hy-life นี้ที่เดียวที่เปิด 24ชม.
แต่พนักงานก็เหวี่ยงๆหน่อยนะ พี่บ่าวนอนน้อย (แซว) ⊙ △ ⊙สำหรับวิธีการคือตอนเดินผ่าน ต ม มาแล้วก็เดินมาเรื่อยๆ มาทางที่มีป้าย skytrain to terminal 2 ระหว่างทางมองซ้ายเข้าไว้จะเจอโรงแรมของเรา(โซฟานั่นแหละ) ให้รีบจับจอง ใครมาช้าก็นั่งหลับไปค่ะ ใครมาเร็วก็ได้นอน เตรียมชาร์จแบตให้เรียบร้อย การนอนในที่แบบนี้ต้องดูแลตัวเองนะคะ
แต่ดูแลตัวเองหรือระวังตัวเองแค่ไหนก็ไม่เพียงพอถ้าไม่หัดไว้ใจโลก (เ อ๊ ะ )การนอนในที่แบบนี้ทำให้เราหัดไว้ใจคนอื่น ไว้ใจโลก เพราะถ้าไม่ไว้ใจยังไงเราก็นอนไม่หลับ ทั้งนี้ของมีค่าต่างๆ เงิน มือถือ พาสปอร์ต ก็ควรเก็บและระวังให้อยู่กับตัวตลอดนะคะ ของแบบนี้ต้องลองแล้วคุณจะมีทักษะเพิ่มขึ้นนะ

คำเตือน : สนามบิน ห น า ว ม า ก ใครสามารถขนผ้าห่ม เสื้อหนาวไปได้ มีประโยชน์แน่นอนค่ะ หนาวมากจริงๆ

ข้อเสีย : ถ้าเป็นคนหลับยากต้องอึดหน่อยนะคะ เพราะถ้าคุณวางแผนเที่ยวแบบลุยอย่างเดียว ไม่มีการพักเพราะกลัวเสียเวลา(แบบเรา) เช้าอีกวันที่ตื่นจากสนามบินและไปเที่ยวจะเหนื่อยและเพลียมาก  เพราะอดนอน ชวนหมดสนุกเอาง่ายๆ แต่เรายังยืนยันคำเดิม เราเป็นวันรุ่นมีแรงเหลือ (หรอ) ฮ่าฮ่า


x i m e n d i n g


วั ด ห ล ง ซ า น
______________________________________________________________________

4.ภาษาจีนไม่กระดิก จะต้องเจอกับอะไรบ้าง ?

เวลาไปประเทศที่ไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลัก สิ่งที่ควรทำคือควรศึกษาเมนูอาหารง่ายๆ หรือปริ้นใส่กระดาษติดตัวไว้ ให้รู้ว่านี่ หมูนะ ไก่นะ ไม่ชิมหมานะยูวว เผ็ดน้อย/มาก หวานน้อย/มาก เป็นต้น เพราะมันจำเป็นกับชีวิตมากเว่อ. เพราะถ้าอยากชิมอาหารท้องถิ่น ให้ทำใจไว้เลยว่าท้องถิ่นก็คือท้องถิ่น ไม่มีภาษาอังกฤษนะจ้ะะะ

มาเข้าเรื่องของเรา คือมาไต้หวันก็อยากจะชิมชาไข่มุกชิป้ะะ เพราะมันคือต้นตำรับ มันคือเดอะเบส แต่ช้าแต่…ขอบอกว่า4วันในไต้หวัน เจอชาที่อร่อยสุดก็ชาขวดตามมินิมาร์ท(นั่นคือดีสุดแล้วที่ได้กิน) ไม่ใช่ชาที่นั่นไม่ดีสมชื่อนะ แต่… Dont have english menu ดังนั้นเวลาสั่งก็ทำได้แค่”จิ้ม”
ลงไปบนเมนูค่ะ ปิดตาและ”จิ้ม” (บางร้านมีภาษาอังกฤษกำกับแต่อย่าคาดหวังมากเพราะพนักงานไม่รู้เรื่องอยู่ดี)

ถามว่าวันแรกจิ้มแล้วได้อะไร…summer melon tea ไอเราก็สั่งไปว่า summer melon tea, quarter sugar(25%) ,normal ice.
แต่ สิ่ง ที่ ได้ กลับ มา ประ เดิม ประ สบ การณ์ ชา นม วัน แรก คือ … O n l y  s u g a r  หรือ น้ำเชื่อมมมมมมมมมใส่น้ำแข็งงงงง !
ถ้าไม่ติดว่าหิวน้ำจะทิ้งตั้งแต่ดูดปื้ดแรกเลย สะเทือนใจหนักมาก 〒〰〒 (อารมณ์เหมือนขึ้นดอยไปอยากชิมยอดชาเจ๋งๆ แต่ทำได้แค่กินชาโออิชิ)

NOTE : การรู้ตัวเลข1-10ของภาษานั้นๆก็สำคัญนะ ที่ไต้หวันเวลาสั่งชาเสร็จ จะได้บัตรคิวไปยืนรอรับ และพนักงานจะเรียกคิวเป็นภาษาจีน
เช่น เราได้คิวที่22 ก็คิดไว้ก่อนเลยต้องมีคำว่า “เอ้อ” และสุดท้ายพนักงานก็เรียกคิว 二十二 ได้กินสักทีนะเรา


นี่ คื อ ดี สุ ด ที่ ไ ด้ กิ น   อ า ย จั ง


ภ า พ ท า ง ไ ป ต ล า ด ก ล า ง คื น ซื่ อ ห ลิ น


f i s h  m a r k e t

5.การขึ้นรถไฟฟ้าและบัตร โย่ โย่ว ข่า 悠遊卡 (แล้วทำไมต้องโย่ โย่ว ข่า ?)

การเดินทางที่ไทเปไม่มีอะไรยากเลยค่ะ ขนาดเราพูดจีนไม่ได้ ภาษาอังกฤษง่อยๆ ยังว่าง่าย ! เชื่อเถอะ ไม่ยากจริงๆ
ก่อนอื่นแนะนำให้ปริ๊นแผนที่รถไฟไปก่อนนะคะ จากนั้นศึกษาว่าสถานที่ๆเราจะไปนั้นๆต้องลงสถานีไหน ถ้ารู้แล้วก็ก้มดูแผนที่ในมือเลยว่าสถานีนั้นมันอยู่สายสีอะไร ถ้ารู้สีแล้วก็ลุยค่ะ เดินหาป้ายแล้วลุยเลย

NOTE : ทริคของเราคือเวลาขึ้นรถไฟ เราจะนับว่าต้องนั่งไปกี่สถานีกว่าจะถึง เราใช้นับเลขเอาค่ะ เพราะว่าปกติแล้วรถไฟจะประกาศด้วยภาษาบ้านเค้าและภาษาอังกฤษที่เป็นสำเนียงบ้านเค้า บางทีเราฟังไม่รู้เรื่องค่ะ อาศัยนับสถานีและดูป้ายประกอบ รอดดดดด (ไม่รอดก็นั่งกลับแค่นั้น 555)


จิ่ ว เ ฟิ่ น โ อ ล ด์ ส ต รี ท


ร้ า น ก๋ ว ย เ ตี๋ ย ว ลู ก ชิ้ น ที่ จิ่ ว เ ฟิ่ น (วิธีสั่งก็ชี้จากโต๊ะข้างๆเอานะพวกเธอ)

_____________________________________________________________________

ว่าด้วยเรื่อง EASY CARD หรือ โย่ โย่ว ข่า 悠遊卡

อันนี้ไม่ได้มีอะไรมาก มันเป็นบัตรๆหนึ่งที่ทำให้เราเดินทางสะดวก ซื้อบัตรแล้วเติมเงินเข้าบัตร เวลาเดินทางก็ติ๊ดๆ  เราจะได้ราคาถูกกว่าปกติด้วยค่ะสำหรับค่าเดินทาง เงินเหลือคืนได้ (ต้องเป็นบัตรที่ซื้อจากตู้หรือใต้ดิน หรือบัตรปกตินะ ถ้าบัตรลายการ์ตูนน่ารักๆหรือบัตรที่ซื้อตาม 7-11 เงินเหลือคืนเงินไม่ได้ค่ะ )

ประโยชน์ของบัตรมีมากมาย ทั้งใช้เดินทาง จ่ายค่ารถไฟ รถบัสก็ได้ ซื้อของใน 7-11 ,hy-life ก็ได้ค่ะ คุ้มและสะดวก ต้องมีนะคะ

เอ้ออออ แล้วทำไมต้อง โหย โหย่ ข่าาา ?

ก็เพราะ . . . ถ้าคุณไปถามหา easy card พนักงานอาจฟังไม่รู้เรื่องค่ะ ถ้าไม่ใช่ซื้อจาก main station ที่เป็นจุดบริการใหญ่ๆที่เค้าเปิดเค้าเต้อโดยเฉพาะจริงๆ  คุณต้องรู้คำนี้ไว้ค่ะ ขนาดเราไปถามหาที่ hy-life ในสนามบิน (ขนาดพนักงานในสนามบิน) เขายังฟังไม่ออกเลยค่ะ อะไรคือ อีซีคาร์ด ด๊อนนโนวว  พนักงานให้แอร์โฮสเตทที่เขามาซื้อของพอดีช่วยคุยก็แล้ว คุณแอร์ก็ทำหน้า งง งวย ซวย แล้ว เรา ฮือๆ ชี้ไปมาสักพัก นางถึงบอกว่า อ๋อ
โย่ โย่ว ข่าา ไอเราก้ เอ้อออ เย่ โย่ โย่ว ข่า  จ บ ค่ ะ 555555


ไ อ ศ ค รี ม ถั่ ว ตั ด อ ร่ อ ย ม า ก


จิ่ ว เ ฟิ่ น


ภ า พ ใ น วั ด ห ล ง ซ า น


ที่ ไ ห น สั ก ที่ จำ ไ ม่ ไ ด้


ツ สุ ด ท้ า ย ท้ า ย สุ ด  T a i p e i   1 0 1 ツ.

ขอบคุณเรื่องและภาพโดย : แมวเหมียวมีหนวดสามเส้น http://pantip.com/topic/35500151