หน้าร้อนอย่างนี้ สิ่งแรกที่อยากทำหลังจากกลับถึงบ้านถ้าเป็นไปได้คงอยากมุดเข้าไปอยู่ในตู้เย็นหรือไม่ก็ช่องฟิตที่มีน้ำแข็งเกาะเยอะๆ แต่ในความเป็นจริงแล้วเราทำได้เพียงคว้าขวดน้ำที่เย็นสุดสักขวดออกมาดื่มเพื่อดับกระหายเท่านั้น แต่คุณรู้ไหมว่าการดื่มน้ำในปริมาณมากเกินความจำเป็นที่ร่างกายต้องการ อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพของคุณได้เช่นกัน

หลายคนมักเข้าใจผิดว่าการดื่มน้ำเย็นมากๆ จะส่งผลเสียต่อสุขภาพ (เพราะเคยได้ยินคุณหมอบอกมาว่าเราควรดื่มน้ำที่มีองศาเท่ากับอุณหภูมิห้อง) แต่ในทางตรงกันข้ามหากเรารู้จักดื่มน้ำเย็นให้เหมาะกับความต้องการของร่างกายก็จะไม่ส่งผลเสียใดๆ ต่อร่างกาย

นายแพทย์บรรจบ ชุณหสวัสดิกุล ศูนย์ธรรมชาติบำบัดบัลวี  ได้ให้ความรู้ว่า น้ำมีประโยชน์ต่อร่างกายหลายประการ เช่น ช่วยย่อยอาหาร ช่วยลำเลียงสารอาหาร ดังนั้นคนเราจึงควรดื่มน้ำวันละ 2 ลิตรหรือวันละ 8 แก้ว หากดื่มน้ำมากเกินอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพมากกว่าผลดี เพราะทางการแพทย์ธรรมชาติบำบัดพบว่า การดื่มน้ำมากเกินไปจะทำให้ไตอ่อนแอ เนื่องจากต้องคอยขับน้ำทิ้งออกจากร่างกายด้วยการปัสสาวะบ่อย จึงทำให้เรามีอาการมือเย็น เท้าเย็น อ่อนแรง ปวดเมื่อยเอว อ่อนเพลียเรื้อรังและหย่อนสมรรถภาพทางเพศ

ในปัจจุบันคนเริ่มหันมาใส่ใจเรื่องของสุขภาพมากขึ้นและทำตามคำแนะนำต่างๆ เช่น ควรดื่มน้ำตอนตื่นนอน 5 แก้ว หรือใน 1ต้องดื่มน้ำให้ได้อย่างน้อยวันละ 8 แก้ว เป็นต้น บางคนถึงกับซื้อน้ำเปล่าที่มีคุณสมบัติเฉพาะเพื่อสุขภาพราคาแพงมาดื่มกันทีเดียว ซึ่งความเป็นจริงแล้วในบ้านเราถือว่าเป็นขุมทรัพย์ด้านผักผลไม้ที่ดีที่สุดแห่งหนึ่ง อีกทั้งผักผลไม้แต่ละชนิดยังมีคุณสมบัติในช่วยรักษาโรคภัยได้อีกด้วย ไม่จำเป็นต้องพึ่งการดื่มน้ำเพียงอย่างเดียว เพราะผลเสียจากการที่ดื่มน้าเข้าไปในปริมาณมาก จะส่งผลให้ไตทำงานหนักได้ ดังนั้นควรกะปริมาณการดื่มน้ำในแต่ละวันของตัวเองให้เหมาะกับความต้องการของร่ายกายเป็นดีที่สุด

ดื่มน้ำเย็นจัด มีผลต่อร่ายกายหรือไม่

นอกจากนี้คุณหมอยังไขปัญหาเพิ่มเติมสำหรับคนที่ชอบดื่นน้ำเย็นมากๆ ด้วยว่า หากอากาศเย็น ไม่จำเป็นต้องดื่มน้ำเย็นเข้าไป ให้ดื่มน้ำอุ่นแทนเพื่อให้ร่างกายได้รับความอบอุ่น แต่มีข้อจำกัดสำหรับผู้ที่มีอาการปวดท้อง เนื่องจากมีประจำเดือน ท้องเสียหรือเป็นโรคกระเพาะ เนื่องจากเวลาที่เราปวดท้องมดลูก ลำไส้จะบีบตัว เมื่อถูกความเย็นก็จะยิ่งมีความรัดตัว ทำให้ปวดท้องมากขึ้น ดังนั้นจึงควรประคบด้วยกระเป๋าน้ำร้อนเพื่อคลายความปวดให้ทุเลาลง

สำหรับผู้ที่มีสุขภาพปกติสามารถดื่มน้ำเย็นได้ เพราะช่องปากของคนเรามีเส้นเลือดมาหล่อเลี้ยงจำนวนมากเวลากินอาหารร้อนหรือเย็น เมื่อผ่านช่องปากจะช่วยปรับอุณหภูมิให้มีความใกล้เคียงกันคือ ประมาณ 37 องศา ดังนั้นจึงไม่มีผลกระทบ แต่ใครที่ดื่มน้ำเย็นแล้วรู้สึกจี๊ดๆ ที่บริเวณหน้าผากหรือศีรษะ ไม่ถือว่าเป็นความผิดปกติ เพราะบริเวณเพดานปากของคนเรามีเส้นประสาทเส้นหนึ่งมีแขนงโยงใยไปที่บริเวณใบหน้าและหน้าผาก จึงทำให้เวลาดื่มน้ำเย็นมากๆ จะรู้สึกจี๊ดขึ้นมา เป็นการทรมานแค่ชั่วคราวแค่ชั่วคราวเท่านั้น

ในทางการแพทย์ได้นำน้ำเย็นมาแก้ไขความเบี่ยงเบนของบุคลิกได้ด้วย เช่น ผู้ที่บุคลิกขี้เหนียว ขี้ตืด มักจะมีปากคอแห้ง กระหายน้ำบ่อย ท้องผูก จึงต้องดื่มน้ำเย็นจะช่วยแก้บุคลิกได้ หรือคนที่มีบุคลิกขี้ร้อน เวลาโดนแดดแล้วเหงื่อออกเยอะ รักแร้เหม็น มีกลิ่นปาก กลิ่นตัวแรง เท้าเหม็น หากดื่มน้ำเย็นจะช่วยแก้ไขได้ สำหรับน้ำอุ่นเหมาะกับคนที่มีบุคลิกขี้กังวล หงุดหงิดง่าย ปากร้าย คนกลุ่มนี้จะมีอาการหนาวง่ายหากดื่มน้ำอุ่นจะช่วยแก้ไขได้

จากที่ฟังมาทั้งหมดนี้คงช่วยไขข้อข้องใจเกี่ยวกับการดื่มน้ำได้อย่างครบถ้วน ต่อให้อากาศจะร้อนหรือเหนื่อยจากการทำงานมากแค่ไหน ก็สามารถหยิบน้ำมาดื่มให้ฉุ่มปอด โดยไม่ต้องกังวลว่าจะส่งผลเสียต่อสุขภาพอีกแล้ว

ขอบคุณข้อมูลจาก : khanpak

Leave a Reply