2013-08-04_16-34-12

ที่มาของภาพ 1 และ

บทความเรื่อง “โพสต์ขายสินค้าอย่างไร ที่จะขายได้มากกว่าเดิม”  และ “หลากเทคนิคการเขียนรายละเอียดของสินค้า น้ำมาซึ่งการคลิกซื้อ”​ได้รับฟีดแบคที่ดีจากผู้อ่าน วันนี้เราจึงขอแนะนำบทความที่เกี่ยวข้องและลงรายละเอียดมากมายสำหรับการเขียน “รายละเอียดสินค้า” แบบมือโปร เพื่อนำมาซึ่งยอดขายที่เพิ่มขึ้น และสื่อสารแบบโดนใจลูกค้ามากยิ่งขึ้น

1. มีการเกริ่น > ให้ข้อเท็จจริง > สรุป

หน้าที่ของสินค้าส่วนใหญ่คือ เกิดมาเพื่อแก้ปัญหา เช่น เสื้อผ้า ช่วยให้ใส่แล้วดูดี อินเทรนด์, กระเป๋า ช่วยใส่และจัดของให้เป็นระเบียบ, กระบอกน้ำเก็บความเย็น ช่วยให้ดื่มทั้งน้ำเย็นและน้ำร้อนได้ตลอดเวลาที่ต้องการ ดังนั้นก่อนจะถึงรายละเอียดสินค้า เราควรพูดถึง “ความสามารถในการแก้ปัญหา” ของสินค้าแต่ละชิ้นให้ผู้อ่านได้ทราบก่อน ซึ่งวิธีการพูดถึงปัญหานี้ก็แบ่งได้เป็นหลายเทคนิค

* ใช้คำถาม?: เช่น คุณรู้หรือไม่ว่าเสื้อเชิ้ยลายฮาวายจริงๆ แล้วไม่ได้มากจากฮาวาย? (ขายผ้าลายดอก)

* ใช้คำคม สำนวน สุภาษิต: แต่งตัวดูดีมีชัยไปกว่าครึ่ง, เคล็บลับความสำเร็จเริ่มต้นจากสูทตัวเดียว (บริการตัดชุดสูท)

* ใช้สถิติ: ไมเคิล จอร์แดนชู้ตลูกบาส 3,000 ครั้งต่อวัน เพื่ออะไร? (ใช้ขายรองเท้ากีฬา)

หลังจากเกริ่นนำด้วยประโยคสั้นๆ ดึงดูดใจให้คนอ่านๆต่อแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือ การบอกคุณสมบัติเด่นของสินค้า โดยการเริ่มจากมองภาพในใจว่าลูกค้าที่จะซื้อสินค้านี้คือใคร จากนั้นก็ดึงฟีเจอร์ไฮไลท์ของสินค้าสัก 3-5 ข้อมาเขียนเป็นประโยคสั้นๆ แยกแถวละหนึ่งหัวข้อชัดเจน จากนั้นก็ตามด้วยสเปคละเอียดจากโรงงาน (อย่าลืมว่าเนื้อหาส่วนนี้ต้องเป็นข้อมูลจริง และตรงกับรูปภาพที่ขึ้นโชว์ไว้ด้วย)

สุดท้ายคือ การกล่าวสรุป เพื่อกระตุ้นให้คนตัดสินใจซื้อไม่ว่าจะเป็นการยืนยันว่า สินค้านี้มีที่เราเท่านั้นที่เป็นผู้นำเข้า หรือการันตีว่าเราขายถูกที่สุด รวมถึงการ ให้ส่วนลด ส่งฟรี หรือกระตุ้นให้คนแนะนำเพื่อนๆ ต่อ
2. สินค้าล้ำๆ ต้องอธิบายเหมือนให้คนไม่เข้าใจฟัง (แล้วรู้เรื่อง)

เชื่อว่าเกือบทุกสินค้าในปัจจุบันพยายามใส่นวัตกรรมต่างๆ เข้าไป เพื่อให้สินค้าทันสมัยและมีประโยชน์มากกว่าเดิม เช่น ลูกอมใส่วิตามินซีและโปรตีน รองเท้าที่ใส่เทคโนโลยีกันลื่น หรือกันกลิ่น ฯลฯ ดังนั้นเทคโนโลยีเหล่านี้ก็มักจะมาพร้อมชื่อเฉพาะ หน้าที่ของเราก็คือ ต้องอธิบายคำศัพท์ที่เป็นชื่อเฉพาะให้ลูกค้าเข้าใจได้ง่ายๆ และตีความได้แบบเดียว (แบบที่ผู้เขียนต้องการสื่อ)

โดยเฉพาะกับสินค้าแกดเจ็ท มักจะมีศัพท์เทคนิค เช่น HDMI, Airplay, 3GPP คำพวกนี้หน้านี้ของเราคือต้องอธิบายให้ลูกค้าเข้าใจโดยใส่ชื่อเต็มในวงเล็บ ให้ภาพที่เกี่ยวข้อง ลิงก์ไปยังบทความอธิบาย เป็นต้น

เช่น การขายมือถือที่รองรับกับเครือข่าย 4G เราก็สามารถแนะนำได้ว่า…

“ใครที่ขาดเน็ตแล้วเหมือนขาดใจ และไม่ไว้ใจเน็ตเต่าๆ ที่ติดๆ ขัดๆ เราขอแนะนำ SM445 มือถือที่รองรับเครือข่าย 4G LTE (Long Term Evolution) ให้ความเร็วในการรับส่งข้อมูลสูงถึง 1Gbps (1,000Mbps) ปัจจุบันมีค่ายทรูได้เปิดให้บริการแล้ว (อ่านรายละเอียดเกี่ยวกับเทคโนโลยี 4G เพิ่มเติมได้ที่นี่) ดูวิดีโอเปรียบเทียบความเร็วของเครือข่าย 3G และ 4G ให้เห็นกับตาของคุณเองได้ที่นี่

หมายเหตุ

เทคนิคที่จะช่วยให้เราเข้าถึงคำศัพท์เทคนิคเหล่านั้นก็คือ ใช้ตัวช่วยอย่างกูเกิล โดยพิมพ์ “ศัพท์เทคนิค” + คืออะไร เช่น 4G คืออะไร? ก็จะได้ผลลัพธ์เป็นเว็บไซต์ที่อธิบายศัพท์เทคนิคเหล่านั้นนั่นเอง เมื่อเราอ่านเข้าใจแล้วก็นำมาเรียบเรียงใหม่ในรายละเอียดสินค้าของเราอีกที

3. ใส่ความเห็นของคนที่ซื้อแล้วจริงๆ ลงไป

เพราะการโปรโมทสินค้าดีที่สุดมิใช่การโฆษณาแต่เป็นการบอกแบบปากต่อปาก ดังนั้นเราสามารถทำให้สินค้าทุกชิ้นของเราเกิดการบอกแบบปากต่อปากได้ นั่นคือ การให้ลูกค้าเล่าถึงความคิดเห็นที่ได้หลังจากการซื้อสินค้า ซึ่งการจะได้มาซึ่งความเห็นนั้นง่ายมากๆ ไม่ว่าจะเป็นการส่งข้อความหาลูกค้าที่เพิ่งซื้อสินค้าไปผ่าน Email, Line, Facebook Message เพื่อขอให้เล่าถึงประสบการณ์ที่ได้จากการใช้สินค้า จากนั้นก็ขออนุญาตเจ้าตัวให้เอาข้อความนี้มาขึ้น พร้อมกับให้หรัสส่วนลดสำหรับการซื้อครั้งต่อไป

วิธีนี้ทำให้ลูกค้าเก่าได้รางวัลจากการใช้สินค้าของเรา นำมาซึ่งการซื้อซ้ำ และยังมีโอกาสดึงลูกค้าใหม่มาซื้อสินค้าได้อีกด้วย

4. มีบล็อก เล่าตำนานชีวิตตัวเอง เพื่อสร้างความน่าเชือถือกับร้านค้า

ในระบบของ lnwshop มีฟีเจอร์ให้ร้านทุกร้านเขียนบล็อกของตัวเอง ทำไมการเขียนบล็อกถึงสำคัญ นั่นก็เพราะว่าพื้นที่ส่วนนี้จะทำให้ลูกค้ารู้จักกับ Behind the scene ของร้านเรา บริษัท และตัวเจ้าของมากยิ่งขึ้น ซึ่งข้อมูลส่วนนี้จะเป็นส่วนสำคัญสำหรับการสร้างความน่าเชือถือของร้านค้าออนไลน์

เนื้อหาอะไรที่ควรเขียนในบล็อกบ้าง?

– ที่มาของชื่อร้าน

– ประสบการณ์จากการขายของชิ้นแรก หรือ ชิ้นที่แพงที่สุด หรือ ชิ้นที่ขายดีที่สุด

– การเดินทางไปดีลธุรกิจ เช่น รับสินค้ามากจากจีน ฮ่องกง เกาหลี ที่เจ้าตัวบินไปด้วยตัวเอง ต้องผ่านอุปสรรคอะไรบ้าง ได้เจอใครๆ บ้าง?

– พาเข้ามาดูสต็อกสินค้า

– หากเกิดสินค้าปลอม บล็อกนี้เป็นที่เตือนภัย และให้ความรู้การดูของจริง

– ปัญหาและอุปสรรคของการเป็นผู้ประกอบการ และทางออกที่ตัวเองทำได้

ข้อมูลทั้งหมดนี้ทำให้ลูกค้าได้รู้จักกับคนขาย และสินค้าในมุมต่างๆ มากยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นอีกหนึ่งการสร้างความสัมพันธ์ทางใจได้อย่างแนบเนียนนั่นเอง

อ่านเทคนิคการทำธุรกิจอี-คอมเมิร์ซอื่นๆ ได้อีกมากมายที่นี่

3 เว็บดีๆ ช่วยคิด+จดทะเบียนชื่อร้านค้าออนไลน์

4 เคล็ดลับเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับร้านค้าออนไลน์

นักธุรกิจใช้ Instagram โปรโมทธุรกิจได้อย่างไร?

5 ข้อคิดก่อนตั้งชื่อร้านค้าออนไลน์

ใช้ Youtube One Channel ช่วยขายของออนไลน์ได้อย่างไร?

Leave a Reply