ถ่ายภาพสินค้า

ตอนที่ 3 การจัดแสง – ภาคทฤษฎี

ในการถ่ายภาพ “สภาพแสง” นั้นถือเป็นเรื่องสำคัญอย่างแรกๆเลยก็ว่าได้ครับ เพราะหากสภาพแสงไม่เอื้ออำนวย คุณภาพของภาพที่ถ่ายได้ก็อาจจะไม่ดีไม่โดนเท่าที่ควร ซึ่งจะส่งผลต่อ
ความรู้สึกของลูกค้าที่มีต่อสินค้าของเราด้วยเช่นกัน ผมจะลองยกตัวอย่างภาพ 2 ภาพให้ดูนะครับ เป็น 2 ภาพที่ถ่ายสินค้าชนิดเดียวกัน แต่อยู่กันคนละสภาวะแสง ภาพที่ออกมาจะให้ความ
รู้สึกอย่างไรบ้าง ลองดูภาพทางด้านล่างนี้ได้เลยครับ

ถ่ายภาพสินค้า

สังเกตเห็นมั้ยครับว่า ภาพซ้ายและภาพขวานั้นเป็นภาพหมีเหมือนกัน แต่ให้ความรู้สึกที่ไม่เหมือนกัน ภาพหมีทางด้านขวานั้นเป็นภาพที่ดูแล้วสบาย รู้สึกอบอุ่น อยากกอด อยากสัมผัส ต่างกับหมีตัวขวาที่ดูแล้วหม่นหมอง น่าสงสาร  ..นี่แหละครับ คืออิทธิพลของ “สภาพแสง” ที่แตกต่างกันนั่นเอง

ดังนั้นก่อนที่เราจะไป Workshop กันในตอนถัดไป ในตอนนี้เราจะมาศึกษาเรื่องการจัดแสงกันก่อนนะครับ

3.1 ทฤษฎีแสง : เพื่อความไม่น่าเบื่อ ผมจะพยายามอธิบายสั้นๆแบบเนื้อๆประเภทที่จำและนำไปประยุกต์ใช้กันเลยนะครับ

  • ขนาดของแหล่งกำเนิดแสง มีผลต่อความนุ่มของแสงที่ต่างกันดังรูป 1.1 (ในกรณีที่วัตถุมีขนาดเท่ากัน)
ถ่ายภาพสินค้า
รูปที่ 1 ขนาดของแหล่งกำเนิดแสงต่อความนุ่มของแสง(เงา)
  • ระยะห่างของแหล่งกำเนิดแสงกับวัตถุ มีผลต่อเงามืดและเงามัวของวัตถุ (ในกรณีที่ระยะวัตถุกับฉากมีระยะเท่ากัน)
ถ่ายภาพสินค้า
รูปที่ 2 ระยะห่างของแหล่งกำเนิดแสงต่อความนุ่มของแสง(เงา)
  • เมื่อแหล่งกำเนิดแสงทะลุผ่านสิ่งกีดขวางชนิดโปร่งแสง จะเกิดการกระเจิงแสงทางด้านหลัง ทำให้แสงที่ได้จากทางด้านหลังสิ่งกีดขวางชนิดโปร่งแสงมีความนุ่มขึ้น เช่น การนำกระดาษไขมากั้นระหว่างแสงกับแบบที่จะถ่าย เป็นต้น
ถ่ายภาพสินค้า
รูปที่ 3 : แสงนุ่มที่เกิดจากการกระเจิงหลังสิ่งกีดขวางชนิดโปร่งแสง
  • เมื่อแหล่งกำเนิดแสงมีการตกกระทบบนวัตถุผิวมันเงาจะเกิดการสะท้อนแสงแข็งกลับไป (เช่น กระจก) แต่หากแสงมีการตกกระทบไปบนวัตถุผิวด้านแสงที่สะท้อนออกมาจะเป็นแสงที่กระเจิงมากขึ้นทำให้ได้แสงสะท้อนที่นุ่มขึ้น (เช่น แผ่นกระดาษสีขาว)
การถ่ายภาพสินค้า
รูปที่ 4 : การกระเจิงของแสงบนวัตถุฟิวสะท้อนที่ต่างกัน

3.2 รูปแบบการจัดแสง

ในการจัดแสงนั้น อันที่จริงมันเป็นศาสตร์ที่ไม่มีการตายตัวเท่าไหร่ครับ เพราะมันคือการแก้ไขสภาพแสงที่มันเกิดขึ้นในที่ใดๆมากกว่า  หรือในบางครั้งอารมณ์หรือรูปแบบของภาพถ่ายที่เราต้องการ ก็ทำให้การจัดแสงที่ได้มีความแตกต่างกันออกไปไม่เหมือนกันครับ ดังนั้นในการแนะนำรูปแบบการจัดแสงนี้ ผมจะเพียงแค่ยกตัวอย่างหลักของการจัดแสงที่คนส่วนใหญ่นิยมใช้กันนะครับ

  • 2 Lights System คือการใช้แสง 2 ทาง ซึ่งจะช่วยทำให้การเกิดเงาทางด้านใดด้านหนึ่งนั้นน้อยลง ภาพดูมีมิติขึ้นกว่าการใช้แสงทางเดียว

3-Light

  • 3 Lights System การใช้แสง 3 ทางจะช่วยให้รายละเอียดในบางจุดของภาพนั้นมีความเด่นชัดมากยิ่งขึ้น รายละเอียดในมุมบางจุดถูกเปิดขึ้นโดยแสงหลายๆทาง ภาพดูสว่างแบบมีมิติมากขึ้น

3-Light-2

จากตัวอย่างข้างต้น หลายๆคนอาจจะสงสัยครับว่า แล้วเราควรจะเลือกใช้แสงไฟกี่ดวงในการถ่ายภาพสินค้าดี? …ซึ่งอันที่จริงแล้ว อย่างที่บอกครับ ว่ามันไม่มีกฎตายตัวจริงๆ เพราะบางครั้งเราอาจจะมีการปรับเพิ่ม/ลดเพื่อให้ได้เพียงภาพที่เราต้องการครับ ดังนั้นใน part ถัดไปผมจะมาพูดถึงวิธีการนำไปใช้กันจริงๆจังๆกันเลย ติดตามในตอนต่อไปซึ่งเป็น HightLight ของ Series บทความนี้ได้เลยครับ ^_^

D.I.Y. การถ่ายภาพสินค้าให้สวยงามอย่างมืออาชีพ ตอนที่ 1 “ปฐมบท”

D.I.Y. การถ่ายภาพสินค้าให้สวยงามอย่างมืออาชีพ ตอนที่ 2 “เตรียมอุปกรณ์”

D.I.Y. การถ่ายภาพสินค้าให้สวยงามอย่างมืออาชีพ ตอนที่ 4 “Workshop – ภาคปฏิบัติ”

Leave a Reply